ตลาด
ข่าวสาร
การวิเคราะห์
ผู้ใช้
24x7
ปฏิทินเศรษฐกิจ
แหล่งเรียนรู้
ข้อมูล
- ชื่อ
- ค่าล่าสุด
- ครั้งก่อน
ค:--
ค: --
ค: --
ค:--
ค: --
ค: --
ค:--
ค: --
ค: --
ค:--
ค: --
ค: --
ค:--
ค: --
ค: --
ค:--
ค: --
ค: --
ค:--
ค: --
ค: --
ค:--
ค: --
ค: --
ค:--
ค: --
ค: --
ค:--
ค: --
ค: --
ค:--
ค: --
ค: --
ค:--
ค: --
ค: --
ค:--
ค: --
ค: --
ค:--
ค: --
ค:--
ค: --
ค:--
ค: --
ค:--
ค: --
ค:--
ค: --
ค: --
ค:--
ค: --
ค: --
ค:--
ค: --
ค: --
ค:--
ค: --
ค: --
ค:--
ค: --
ค: --
ค:--
ค: --
ค:--
ค: --
ค:--
ค: --
ค: --
ค:--
ค: --
ค: --
ค:--
ค: --
ค: --
ค:--
ค: --
ค: --
ค:--
ค: --
ค: --
ค:--
ค: --
ค: --
--
ค: --
ค: --
--
ค: --
ค: --
--
ค: --
ค: --
--
ค: --
ค: --
--
ค: --
ค: --
--
ค: --
ค: --
--
ค: --
ค: --
--
ค: --
ค: --
--
ค: --
ค: --
--
ค: --
ค: --
--
ค: --
ค: --
--
ค: --
ค: --
--
ค: --
ค: --
--
ค: --
ค: --
--
ค: --
ค: --
--
ค: --
ค: --
--
ค: --
ค: --
--
ค: --
ค: --
--
ค: --
ค: --
--
ค: --
ค: --
--
ค: --
ค: --
--
ค: --
ค: --
--
ค: --
ค: --
--
ค: --
ค: --
--
ค: --
ค: --
--
ค: --
ค: --
ไม่มีข้อมูลที่ตรงกัน
ทัศนคติล่าสุด
ทัศนคติล่าสุด
หัวข้อยอดนิยม
เพื่อเรียนรู้การเปลี่ยนแปลงของตลาดอย่างรวดเร็วและติดตามตลาดโฟกัสใน 15 นาที
ในโลกของมนุษยชาติ จะไม่มีคำกล่าวใด ๆ ที่ไม่มีจุดยืนใด ๆ หรือคำพูดใด ๆ ที่ไม่มีจุดประสงค์ใด ๆ
อัตราเงินเฟ้อ อัตราแลกเปลี่ยน และเศรษฐกิจเป็นตัวกำหนดการตัดสินใจเชิงนโยบายของธนาคารกลาง ทัศนคติและคำพูดของเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางยังมีอิทธิพลต่อการกระทำของเทรดเดอร์ในตลาดอีกด้วย
เงินทำให้โลกหมุนไป และสกุลเงินเป็นสินค้าถาวร ตลาดฟอเร็กซ์เต็มไปด้วยความประหลาดใจและความคาดหวัง
คอลัมนิสต์ยอดนิยม
เพลิดเพลินกับกิจกรรมที่น่าตื่นเต้น ที่นี่ที่ FastBull
ข่าวด่วนล่าสุดและเหตุการณ์ทางการเงินทั่วโลก
ฉันมีประสบการณ์ 5 ปีในการวิเคราะห์ทางการเงิน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านการพัฒนามหภาคและการตัดสินแนวโน้มระยะกลางและระยะยาว ความสนใจของฉันอยู่ที่การพัฒนาของตะวันออกกลาง ตลาดเกิดใหม่ ถ่านหิน ข้าวสาลี และสินค้าเกษตรอื่นๆ
7 ปีของตลาดหุ้น การแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ โลหะมีค่า และประสบการณ์การซื้อขายและการวิเคราะห์อื่น ๆ โดยอาศัยปัจจัยพื้นฐาน การสนับสนุนทางเทคนิค มีอคติต่อตรรกะธุรกรรมจากบนลงล่าง โดยเน้นที่วัฏจักรมหภาคและการควบคุมความเสี่ยง การคาดการณ์เชิงทฤษฎีอุปสงค์และอุปทานอเนกประสงค์ การเปลี่ยนแปลงของราคา สร้างสมดุลระหว่างผลกระทบของธุรกรรม การกระจายชิปและอารมณ์ตลาด และคงที่
อัปเดตล่าสุด
สร้างทัศนคติการลงทุนที่ดี
วอร์เรน บัฟเฟตต์ได้รับเกียรติให้เป็นหนึ่งในนักลงทุนที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ ปรัชญาการลงทุนของเขาประกอบด้วยการสร้างกรอบความคิดระยะยาว ขจัดญาณรบกวนของตลาด ไม่เก็งกำไร และเน้นย้ำว่าการลงทุนต้องมีมีจิตใจที่มั่นคงและเป้าหมายที่ชัดเจน
คำเตือนเกี่ยวกับความเสี่ยงในการลงทุนในตลาดหุ้นฮ่องกง
แม้ว่าระบบกฎหมายและกรอบการกำกับดูแลในฮ่องกงจะค่อนข้างสมบูรณ์ แต่ตลาดหุ้นยังคงเผชิญกับความเสี่ยงและความท้าทายพิเศษหลายประการ เช่น ความสัมพันธ์ระหว่าง HKD และ USD นักลงทุนต่างชาติอาจเผชิญกับความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยน ความผันผวนของนโยบายและสถานการณ์ทางเศรษฐกิจของจีนแผ่นดินใหญ่อาจส่งผลกระทบต่อตลาดหุ้นฮ่องกงด้วย
โครงสร้างต้นทุนและภาษีเมื่อลงทุนในหุ้นฮ่องกง
ต้นทุนการซื้อขายในตลาดหุ้นฮ่องกง ได้แก่ ค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรมหุ้น ค่าอากรแสตมป์ ค่าธรรมเนียมการชำระบัญชี ฯลฯ สำหรับนักลงทุนต่างชาติอาจมีค่าธรรมเนียมการแปลงสกุลเงินเพิ่มเติมเป็นดอลลาร์ฮ่องกงและภาษีอื่น ๆ ตามข้อบังคับท้องถิ่น
การวิเคราะห์อุตสาหกรรมฮ่องกง:อุตสาหกรรมสินค้าอุปโภคบริโภคที่ไม่จำเป็น
อุตสาหกรรมสินค้าอุปโภคบริโภคที่ไม่จำเป็นของฮ่องกง ได้แก่ รถยนต์ การศึกษา การท่องเที่ยว การจัดเลี้ยง เครื่องแต่งกาย และภาคส่วนอื่นๆ อีกมากมาย จากบริษัทจดทะเบียน 643 แห่งนั้น 35% เป็นบริษัทในจีนแผ่นดินใหญ่และคิดเป็น 65% ของมูลค่าตลาดทั้งหมด ดังนั้นอุตสาหกรรมนี้จึงได้รับอิทธิพลอย่างลึกซึ้งจากเศรษฐกิจจีน
ฮ่องกง,ประเทศจีน
นครโฮจิมินห์, เวียดนาม
ดูไบ, UAE
ลากอส, ไนจีเรีย
ไคโร, อียิปต์
ไวท์เลเบล
Data API
ปลั๊กอินเว็บไซต์
โครงการพันธมิตร
ดูผลการค้นหาทั้งหมด
ไม่มีข้อมูล
ไม่ได้ล็อกอิน
เข้าสู่ระบบเพื่อเข้าถึงฟังก์ชั่นเพิ่มเติม
สมาชิก FastBull
ยังไม่ได้เปิด
สมัคร
เข้าสู่ระบบ
ลงทะเบียน
ฮ่องกง,ประเทศจีน
นครโฮจิมินห์, เวียดนาม
ดูไบ, UAE
ลากอส, ไนจีเรีย
ไคโร, อียิปต์
ไวท์เลเบล
Data API
ปลั๊กอินเว็บไซต์
โครงการพันธมิตร
สกุลเงินตลาดเกิดใหม่ในเอเชียส่วนใหญ่อ่อนค่าในวันนี้ ขณะที่ดอลลาร์ดีดตัวขึ้นจากที่อ่อนค่าลงในช่วงแรก หลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ลดอัตราดอกเบี้ย 0.50%
แต่รูเปียห์แข็งค่าถึง 0.4% มาที่ระดับสุงสุดในรอบกว่า 1 ปี หลังจากที่ธนาคารกลางอินโดนีเซีย (บีไอ) ลดอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งแรกในรอบกว่า 3 ปีเมื่อวานนี้ โดยลด 0.25% สู่ระดับ 6.00% ก่อนที่เฟดลดดอกเบี้ย ขณะที่บีไอดำเนินการเพื่อหนุนการขยายตัวทางเศรษฐกิจท่ามกลางเสถียรภาพของรูเปียห์
นักวิเคราะห์จากเมย์แบงก์กล่าวว่า "การลดดอกเบี้ยอย่างไม่คาดคิดของอินโดนีเซียดูเหมือนว่าได้ส่งสัญญาณเชิงบวกให้แก่ตลาดว่า บีไออาจจะมั่นใจมากขึ้นว่า สภาวะระดับมหภาคทั่วโลกกำลังหนุนค่าเงินรูเปียห์มากขึ้น"
นักวิเคราะห์เชื่อว่า การลดดอกเบี้ยมากกว่าปกติของเฟดเพื่อเริ่มวงจรการผ่อนคลายนโยบายนั้นน่าจะทำให้ง่ายขึ้นที่ธนาคารกลางในเอเชียจะทำตาม
อัตราแลกเปลี่ยน ณ เวลา 11.50 น.ตามเวลาไทย
COUNTRY | FX RIC | FX DAILY % | FX YTD % |
Japan | JPY= | -0.63 | -1.47 |
China | CNY=CFXS | -0.02 | +0.26 |
India | INR=IN | +0.10 | -0.54 |
Indonesia | IDR= | +0.29 | +0.72 |
Malaysia | MYR= | -0.24 | +7.95 |
Philippines | PHP= | +0.13 | -0.45 |
S.Korea | KRW=KFTC | -0.21 | -3.33 |
Singapore | SGD= | -0.02 | +1.85 |
Taiwan | TWD=TP | +0.00 | -3.77 |
Thailand | THB=TH | -0.04 | +2.47 |
Eikon source text
นิวยอร์ค--19 ก.ย.--รอยเตอร์
ดัชนีดอลลาร์สหรัฐเมื่อเทียบกับตะกร้าสกุลเงินแข็งค่าขึ้นในวันพุธ หลังจากแกว่งตัวผันผวนในระหว่างวัน ในขณะที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ประกาศปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.50% สู่ 4.75-5.00% โดยให้เหตุผลว่าเฟดมีความเชื่อมั่นมากยิ่งขึ้นว่า อัตราเงินเฟ้อจะยังคงชะลอตัวลงสู่ระดับเป้าหมายที่เฟดตั้งไว้ที่ 2% เมื่อเทียบรายปี นอกจากนี้ ผู้กำหนดนโยบายของเฟดยังคาดการณ์อีกด้วยว่า เฟดอาจจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอีก 0.50% สู่ 4.25-4.50% ในช่วงปลายปีนี้, จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอีก 1% ในปี 2025 สู่ 3.25-3.50% ในช่วงปลายปี 2025 และจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอีก 0.50% ในปี 2026 สู่ 2.75-3.00% ในช่วงปลายปี 2026 ซึ่งจะถือเป็นจุดต่ำสุดของวัฏจักร ทั้งนี้ ดอลลาร์ร่วงลงในช่วงแรกหลังจากเฟดเผยผลการประชุม แต่ดอลลาร์ลดช่วงติดลบกลับขึ้นมาได้หลังจากนายเจอโรม พาวเวลล์ ประธานเฟดจัดงานแถลงข่าว โดยนายพาวเวลล์กล่าวว่า "ผมมองไม่เห็นสัญญาณใด ๆ ในเศรษฐกิจสหรัฐในตอนนี้ที่บ่งชี้ว่า มีแนวโน้มที่จะเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอย คุณเห็นได้ว่าเศรษฐกิจกำลังเติบโตในอัตราที่แข็งแกร่ง, อัตราเงินเฟ้อกำลังชะลอตัวลง และตลาดแรงงานก็ยังคงอยู่ในระดับที่แข็งแกร่งมาก"
ดัชนีดอลลาร์เมื่อเทียบกับตะกร้าสกุลเงินอยู่ที่ 101.02 ในช่วงท้ายตลาดวันพุธ โดยแข็งค่าขึ้นจาก 100.91 ในช่วงท้ายตลาดวันอังคาร หลังจากดิ่งลงแตะ 100.21 ในระหว่างวัน ซึ่งถือเป็นจุดต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนก.ค. 2023
ดอลลาร์/เยนอยู่ที่ 142.27 เยนในช่วงท้ายตลาดวันพุธ โดยอ่อนค่าลงจากระดับปิดตลาดวันอังคารที่ 142.40 เยน
ยูโร/ดอลลาร์อยู่ที่ 1.1118 ดอลลาร์ในช่วงท้ายวันพุธ โดยขยับขึ้นจาก 1.1113 ดอลลาร์ในช่วงท้ายวันอังคาร
หลังจากเฟดประกาศผลการประชุม นักลงทุนในตลาดสัญญาล่วงหน้าก็คาดว่า เฟดมีแนวโน้มที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอีกราว 0.70% ในช่วงต่อไปในปีนี้ ทั้งนี้ เส้นอัตราผลตอบแทนระหว่างพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐประเภทอายุ 2 ปีกับ 10 ปี ซึ่งถือเป็นมาตรวัดการคาดการณ์แนวโน้มเศรษฐกิจ พุ่งขึ้นแตะ 0.1018% ในระหว่างช่วงการซื้อขายวันพุธ ซึ่งถือเป็นระดับที่ลาดชันที่สุดนับตั้งแต่เดือนก.ค. 2022 หรือลาดชันที่สุดในรอบ 2 ปี และอยู่ที่ 0.0837% ในช่วงท้ายวันพุธ ในขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐประเภทอายุ 10 ปีปรับขึ้นจาก 3.642% ในช่วงท้ายวันอังคาร สู่ 3.687% ในช่วงท้ายวันพุธ
ปอนด์แข็งค่าขึ้นจาก 1.3163 ดอลลาร์ในช่วงท้ายวันอังคาร สู่ 1.3214 ดอลลาร์ในช่วงท้ายวันพุธ โดยปอนด์ถือเป็นสกุลเงินที่พุ่งขึ้นมากที่สุดในบรรดาสกุลเงินกลุ่มจี-10 นับตั้งแต่ต้นปีนี้ ทั้งนี้ หยวนพุ่งขึ้นแตะ 7.0708 หยวนต่อดอลลาร์ในระหว่างช่วงการซื้อขายวันพุธ ซึ่งถือเป็นจุดสูงสุดนับตั้งแต่เดือนมิ.ย. 2023 --จบ--
Eikon source text
(รอยเตอร์ โดย จิตร โพธิ์แก้ว แปลและเรียบเรียง)
((jit.phokaew@thomsonreuters.com; โทร 08-7689-6043;
นิวยอร์ค--18 ก.ย.--รอยเตอร์
เทรดเดอร์ในตลาดการเงินทั่วโลกกำลังเผชิญกับความไม่แน่นอนมากเป็นพิเศษ ในขณะที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) กำลังจะเปิดเผยผลการประชุมกำหนดนโยบายในเวลา 01.00 น.ของวันพฤหัสบดีตามเวลาไทย และจะเปิดเผยรายงานคาดการณ์แนวโน้มเศรษฐกิจและอัตราดอกเบี้ยรายไตรมาสในคืนนี้ด้วย แต่เทรดเดอร์ไม่แน่ใจว่าผลการประชุมเฟดในคืนนี้จะออกมาเป็นเช่นใด ดังนั้นตลาดการเงินจึงมีแนวโน้มที่จะแกว่งตัวผันผวนมากเป็นพิเศษหลังจากเฟดเปิดเผยผลการประชุม ทั้งนี้ นักลงทุนคาดการณ์ในตอนนี้ว่า มีโอกาส 63% ที่เฟดอาจจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.50% สู่ 4.75-5.00% ในการประชุมวันที่ 17-18 ก.ย. โดยโอกาสดังกล่าวพุ่งขึ้นจากระดับราว 30% ที่เคยคาดไว้ในสัปดาห์ที่แล้ว และนักลงทุนก็คาดการณ์ในตอนนี้ว่า มีโอกาส 37% ที่เฟดอาจจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25% สู่ 5.00-5.25% ในการประชุมวันที่ 17-18 ก.ย. โดยการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในครั้งนี้จะถือเป็นการปรับลดอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกในรอบกว่า 4 ปี นอกจากนี้ นักลงทุนยังคาดการณ์อีกด้วยว่า เฟดอาจจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงรวมกันราว 1.16% ในปีนี้
บริษัทโบรกเกอร์ขนาดใหญ่คาดว่า เฟดอาจจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงเพียง 0.25% ในคืนนี้ โดยบริษัทโบรกเกอร์ที่คาดว่า เฟดอาจจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงครั้งละ 0.25% เป็นจำนวน 3 ครั้งในปีนี้ รวมถึงบริษัทโกลด์แมน แซคส์, แบงก์ ออฟ อเมริกา โกลบัล รีเสิร์ช, โนมูระ, ดอยช์ แบงก์, มอร์แกน สแตนเลย์, บาร์เคลย์ส, ยูบีเอส โกลบัล รีเสิร์ช, เอชเอสบีซี และแมคควารี แต่มีบริษัทโบรกเกอร์บางแห่งที่คาดว่า เฟดอาจจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.50% ในการประชุมวันที่ 17-18 ก.ย. โดยบริษัทกลุ่มนี้รวมถึงบริษัทยูบีเอส โกลบัล เวลธ์ แมเนจเมนท์, เจ.พี.มอร์แกน, เวลส์ ฟาร์โก และสถาบันการลงทุนเวลส์ ฟาร์โก นอกจากนี้ ก็มีบริษัทโบรกเกอร์บางแห่งที่คาดว่า เฟดอาจจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.50% ในการประชุมวันที่ 6-7 พ.ย. โดยบริษัทกลุ่มนี้รวมถึงเจ.พี.มอร์แกน, เวลส์ ฟาร์โก และซิตี้กรุ๊ป ทางด้านบริษัทที่คาดว่า เฟดอาจจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.50% ในการประชุมวันที่ 17-18 ธ.ค.ได้แก่บริษัทซิตี้กรุ๊ป ทั้งนี้ รายงานของแบงก์ ออฟ อเมริกา โกลบัล รีเสิร์ชระบุว่า ตลาดสัญญาล่วงหน้า Fed funds แสดงให้เห็นว่าการตัดสินใจของคณะกรรมการกำหนดนโยบาย (FOMC) ของเฟดในครั้งนี้มีความไม่แน่นอนในระดับที่สูงเป็นประวัติการณ์
นายจอร์จ บอรี หัวหน้านักยุทธศาสตร์การลงทุนตราสารหนี้ของบริษัทออลสปริงระบุว่า "ถือเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นน้อยครั้งมากที่นักลงทุนมีความเห็นแตกต่างจากกันเป็นอย่างมากแบบนี้ต่อผลการประชุมเฟดในช่วงเวลา 24 ชั่วโมงก่อนเปิดเผยผลการประชุม" และเขากล่าวเสริมว่า "โดยปกติแล้วในช่วง 24 ชั่วโมงก่อนเผยผลการประชุมนั้น เฟดก็มักจะได้สื่อสารอย่างเฉพาะเจาะจงออกไปแล้วว่า เฟดจะตัดสินใจอย่างไร หรือเฟดมักจะได้ชี้นำตลาดให้คาดการณ์แบบนั้นไปแล้ว" นอกจากนี้ การที่เทรดเดอร์ไม่แน่ใจว่า เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงมากน้อยเพียงใดในการประชุมครั้งนี้ ก็จะส่งผลให้ผลการประชุมเฟดในครั้งนี้สร้างความประหลาดใจต่อเทรดเดอร์จำนวนมากด้วย ไม่ว่าเฟดจะตัดสินใจอย่างไรก็ตาม ทั้งนี้ ผลการวิเคราะห์ของธนาคารดอยช์ แบงก์แสดงให้เห็นว่า การปรับอัตราดอกเบี้ยของเฟดในครั้งนี้มีแนวโน้มที่จะสร้างความประหลาดใจมากที่สุดในรอบ 15 ปี โดยนายแมทท์ เวลเลอร์ หัวหน้าฝ่ายวิจัยตลาดของบริษัทสโตนเอ็กซ์กล่าวว่า "นักลงทุนแต่ละคนคาดการณ์แตกต่างกันไปต่อผลการประชุมเฟดครั้งนี้ ดังนั้นจะมีนักลงทุนราวครึ่งหนึ่งที่คาดการณ์ผิดพลาด และนักลงทุนกลุ่มนี้ก็จะมีความจำเป็นต้องปรับสถานะการลงทุนของตนเอง และจะส่งผลให้ตลาดการเงินแกว่งตัวครั้งใหญ่ ไม่ว่าเฟดจะตัดสินใจอย่างไรก็ตาม"
นักลงทุนระบุว่า ตลาดหุ้น, ตลาดปริวรรตเงินตรา และตลาดตราสารหนี้อาจจะแกว่งตัวอย่างรุนแรงหลังจากเฟดเปิดเผยผลการประชุม โดยบริษัท ORATS ระบุว่า ตลาดออปชั่นหุ้นปรับตัวรับการคาดการณ์ที่ว่า ดัชนี S&P 500 ของตลาดหุ้นสหรัฐอาจจะแกว่งตัว 1.1% ได้ทั้งในทางบวกและในทางลบในวันพุธนี้ หลังจากดัชนี S&P 500 ปรับขึ้นมาแล้ว 7 วันติดต่อกันในช่วงที่ผ่านมา และพุ่งขึ้นมาแล้ว 4.2% ในช่วง 7 วันทำการดังกล่าว โดยดัชนี S&P 500 เพิ่งปิดขยับขึ้น 0.03% สู่ 5,634.58 ในวันอังคาร หลังจากทะยานขึ้นแตะสถิติสูงสุดใหม่ในระหว่างวันที่ 5,670.81 โดยการพุ่งขึ้นของตลาดหุ้นในช่วงนี้อาจได้รับแรงหนุนบางส่วนมาจากการคาดการณ์ที่ว่า เฟดอาจจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอย่างรุนแรงในวัฏจักรนี้ ทั้งนี้ ถ้าหากผลการประชุมเฟดและถ้อยแถลงของนายเจอโรม พาวเวลล์ ประธานเฟด บ่งชี้ว่าเฟดอาจจะไม่ปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอย่างรุนแรง เทรดเดอร์ก็จะมีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนการคาดการณ์ของตนเองใหม่ โดยทารา ฮาริฮาราน จากกองทุนเฮดจ์ฟันด์ "เอ็นดับเบิลยูไอ แมเนจเมนท์" กล่าวว่า "ตลาดจะมีความจำเป็นต้องปรับลดการคาดการณ์ดังกล่าวลงมาบ้าง เพราะว่าเศรษฐกิจสหรัฐยังคงรักษาระดับความแข็งแกร่งไว้ได้เป็นอย่างดี" และเธอคาดว่าเส้นอัตราผลตอบแทนพันธบัตรจะลาดชันมากยิ่งขึ้น
ผลการประชุมเฟดอาจจะส่งผลกระทบอย่างมากต่อตลาดปริวรรตเงินตราด้วย โดยเฉพาะต่อค่าดอลลาร์/เยน โดยนายเวลเลอร์กล่าวว่า ถ้าหากเฟดปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25% ในคืนนี้ ดอลลาร์/เยนก็อาจจะปรับขึ้นมาอยู่เหนือ 142.00 เยน จากระดับ 141.66 เยนในปัจจุบัน แต่ถ้าหากเฟดปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.50% ในคืนนี้ ดอลลาร์ก็อาจจะดิ่งลงเข้าใกล้ระดับสำคัญทางจิตวิทยาที่ 140 เยน ทั้งนี้ นายเกลน คาเพโล กรรมการผู้จัดการฝ่ายตราสารหนี้ของบริษัทมิชเลอร์ ไฟแนนเชียล กรุ๊ปคาดว่า ถ้าหากเฟดปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25% นักลงทุนก็อาจจะเทขายพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐออกมา แต่ปัจจัยนี้จะขึ้นอยู่กับงานแถลงข่าวของเฟดด้วย--จบ--
Eikon source text
(รอยเตอร์ โดย จิตร โพธิ์แก้ว แปลและเรียบเรียง)
((jit.phokaew@thomsonreuters.com; โทร 08-7689-6043;
สกุลเงินตลาดเกิดใหม่ในเอเชียส่วนใหญ่ปรับตัวขึ้นในวันนี้ เนื่องจากดอลลาร์ลดช่วงบวกลงจากที่แข็งค่าขึ้นเมื่อคืนนี้ ขณะที่เทรดเดอร์ได้ประเมินโอกาสที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะลดอัตราดอกเบี้ยครั้งใหญ่ในการประชุมที่จะเสร็จสิ้นในวันนี้
ริงกิตพุ่งแตะระดับสูงสุดในรอบกว่า 19 เดือน โดยปรับตัวขึ้น 0.4% มาที่ 4.2370 ต่อดอลลาร์ ขณะที่ริงกิตยังคงแข็งค่าต่อเนื่อง เนื่องจากปัจจัยหนุนต่างๆทั้งปัจจัยพื้นฐานเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง และการคาดการณ์ว่าเฟดจะลดดอกเบี้ยนั้น ทำให้มีเงินทุนไหลเข้ามา
เนื่องจากคาดว่าเฟดจะลดดอกเบี้ย 0.75% เป็นอย่างต่ำในปีนี้ ดอลลาร์จึงอ่อนค่าลง ซึ่งช่วยทำให้ตลาดเกิดใหม่ฟื้นตัว และเพิ่มความน่าสนใจของสินทรัพย์ตลาดเกิดใหม่ โดยสกุลเงินส่วนใหญ่แข็งค่ามากในเดือนนี้ ขณะที่เปโซแข็งค่าเมื่อเทียบรายเดือนมากที่สุดในรอบ 18 ปี
นายเรียวตะ อาเบะ นักเศรษฐศาสตร์จากสุมิโมโต มิตซุย แบงก์กิง คอร์ปกล่าวว่า ตลาดดูเหมือนว่าจะให้โอกาสมากไปกับการลดดอกเบี้ยต่อเนื่องของเฟดในปีนี้ และความรู้สึกคลายกังวลจะไม่ใช่ว่าเฟดจะลดดอกเบี้ย "แค่ไหน" ในครั้งนี้ แต่เฟดจะสามารถลดดอกเบี้ยได้ "ลึกแค่ไหน" ในวงจรการลดดอกเบี้ยนี้ ดังนั้น การลดดอกเบี้ย 0.25% ของเฟดจะส่งผลให้สกุลเงินเอเชียถูกเทขายออกมา เนื่องจากดอลลาร์อาจจะได้รับคำสั่งซื้อคืน
"ในระยะสั้น ผู้มีส่วนร่วมในตลาดจะทบทวนโอกาสที่เฟดจะลดดอกเบี้ย 0.50% ในไม่ช้า ขณะที่ข้อมูลเศรษฐกิจปัจจุบันไม่ได้สนับสนุนการลดดอกเบี้ยมากขนาดนั้นเสมอไป ซึ่งก็จะทำให้ดอลลาร์แข็งค่าขึ้นอีกครั้ง"
อัตราแลกเปลี่ยน ณ เวลา 11.22 น.ตามเวลาไทย
COUNTRY | FX RIC | FX DAILY % | FX YTD % |
Japan | JPY= | +0.62 | -0.33 |
China | CNY=CFXS | -0.01 | +0.02 |
India | INR=IN | - | -0.65 |
Indonesia | IDR= | -0.14 | +0.28 |
Malaysia | MYR= | +0.38 | +8.31 |
Philippines | PHP= | -0.18 | -0.60 |
S.Korea | KRW=KFTC | - | -3.13 |
Singapore | SGD= | +0.19 | +1.91 |
Taiwan | TWD=TP | -0.09 | -3.77 |
Thailand | THB=TH | +0.15 | +2.57 |
Eikon source text
หยวนทรงตัวเมื่อเทียบกับดอลลาร์ในวันนี้ ขณะที่เทรดเดอร์กลับเข้าทำงานหลังจากหยุดเนื่องในเทศกาลไหว้พระจันทร์ และก่อนการประชุมตัดสินอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่จะสิ้นสุดในวันนี้ และคาดว่าเฟดจะเริ่มวงจรการลดดอกเบี้ยที่อาจจะทำให้เกิดความผันผวนกับอัตราแลกเปลี่ยน ซึ่งรวมถึงดอลลาร์-หยวน
โอกาสที่เฟดจะลดดอกเบี้ย 0.50% ลดลงเหลือ 65% ในช่วงเช้านี้ที่ตลาดเอเชีย หลังจากข้อมูลยอดค้าปลีกของสหรัฐเพิ่มขึ้นอย่างไม่คาดคิดในเดือนส.ค.
การร่วงลงของดอลลาร์ก่อนคาดการณ์การลดดอกเบี้ยของสหรัฐในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้าช่วยพยุงค่าเงินหยวนในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา โดยหยวนฟื้นตัวขึ้นจากที่อ่อนค่าในช่วงแรก และปรับตัวขึ้น 0.1% นับตั้งแต่ต้นปีนี้
ก่อนตลาดเปิดทำการ ธนาคารกลางจีนได้กำหนดค่ากลางหยวนที่ 7.0870 ต่อดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดตั้งแต่วันที่ 2 ม.ค. และต่ำกว่าที่รอยเตอร์คาดการณ์ไว้อยู่ 0.0042 หยวน
หยวนในตลาดสปอตอยู่ที่ 7.0968 ต่อดอลลาร์ในช่วงเปิดตลาด และปิดเที่ยงวันลดลง 0.0014 หยวนจากระดับปิดครั้งก่อนที่ 7.0972 ต่อดอลลาร์--จบ--
Eikon source text
โตเกียว--18 ก.ย.--รอยเตอร์
ดัชนีดอลลาร์สหรัฐเมื่อเทียบกับตะกร้าสกุลเงินปรับลงในการซื้อขายช่วงเช้าวันนี้ที่ตลาดเอเชีย หลังจากที่เพิ่งแข็งค่าขึ้นเมื่อวานนี้ โดยได้รับแรงหนุนจากตัวเลขยอดค้าปลีกของสหรัฐที่แข็งแกร่งเกินคาด ในขณะที่เทรดเดอร์รอดูผลการประชุมกำหนดนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่จะได้รับการประกาศออกมาในเวลา 01.00 น.ของวันพฤหัสบดีตามเวลาไทย และรอดูงานแถลงข่าวของเฟดในเวลา 01.30 น.ตามเวลาไทยด้วย ทั้งนี้ นักลงทุนคาดการณ์ในตอนนี้ว่า มีโอกาส 65% ที่เฟดอาจจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.50% สู่ 4.75-5.00% ในการประชุมวันที่ 17-18 ก.ย. โดยโอกาสดังกล่าวพุ่งขึ้นจากระดับราว 30% ที่เคยคาดไว้ในสัปดาห์ที่แล้ว และนักลงทุนก็คาดการณ์ในตอนนี้ว่า มีโอกาส 35% ที่เฟดอาจจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25% สู่ 5.00-5.25% ในการประชุมวันที่ 17-18 ก.ย. โดยการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในครั้งนี้จะถือเป็นการปรับลดอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกในรอบกว่า 4 ปี นอกจากนี้ นักลงทุนยังคาดการณ์อีกด้วยว่า เฟดอาจจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงรวมกันราว 1.17% ในปีนี้
ดอลลาร์/เยนดิ่งลง 0.73% สู่ 141.36 เยนในช่วงเช้าวันนี้ หลังจากดิ่งลงแตะ 139.58 เยนในวันจันทร์ ซึ่งถือเป็นจุดต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนก.ค. 2023 ส่วนยูโร/ดอลลาร์แข็งค่าขึ้น 0.13% สู่ 1.1127 ดอลลาร์สหรัฐในช่วงเช้าวันนี้ และเทียบกับจุดสูงสุดของปีนี้ที่ 1.1201 ดอลลาร์ที่เคยทำไว้ในวันที่ 26 ส.ค. ทางด้านดัชนีดอลลาร์สหรัฐเมื่อเทียบกับตะกร้าสกุลเงินอ่อนค่าลง 0.10% สู่ 100.81 ในช่วงเช้าวันนี้ ทั้งนี้ ปอนด์ขยับขึ้น 0.03% สู่ 1.3165 ดอลลาร์สหรัฐในช่วงเช้าวันนี้ ส่วนดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้น 0.17% สู่ 0.6766 ดอลลาร์สหรัฐในช่วงเช้าวันนี้ ทางด้านดอลลาร์นิวซีแลนด์พุ่งขึ้น 0.27% สู่ 0.6205 ดอลลาร์สหรัฐในช่วงเช้าวันนี้ โดยได้รับแรงหนุนจากการทะยานขึ้นของราคานม
สำนักงานสำมะโนประชากรในกระทรวงพาณิชย์สหรัฐรายงานในวันอังคารว่า ยอดค้าปลีกสหรัฐปรับขึ้น 0.1% ในเดือนส.ค.เมื่อเทียบรายเดือน หลังจากพุ่งขึ้น 1.1% ในเดือนก.ค. และสวนทางกับตัวเลขคาดการณ์ของนักเศรษฐศาสตร์ในโพลล์รอยเตอร์ที่คาดว่า ยอดค้าปลีกอาจปรับลดลง 0.2% ในเดือนส.ค. ส่วนยอดค้าปลีกแบบเทียบรายปีพุ่งขึ้น 2.1% ในเดือนส.ค. โดยรายงานนี้บ่งชี้ว่า เศรษฐกิจสหรัฐยังคงเติบโตอย่างแข็งแกร่งในไตรมาสสาม ในขณะที่ยอดสั่งซื้อสินค้าออนไลน์อยู่ในระดับที่แข็งแกร่ง และปัจจัยบวกนี้ช่วยบดบังยอดขายที่ลดลงในบริษัทตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ ทั้งนี้ เฟดสาขาแอตแลนตาปรับขึ้นตัวเลขคาดการณ์อัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจของสหรัฐประจำไตรมาสสามหลังจากมีการรายงานตัวเลขยอดค้าปลีก โดยเฟดสาขาแอตแลนตาคาดว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ของสหรัฐอาจจะเติบโต 3.0% ในไตรมาสสามเมื่อเทียบเป็นตัวเลขเต็มปี (annualized) โดยปรับขึ้นจากตัวเลขคาดการณ์เดิมที่ 2.5% และเทียบกับอัตราการเติบโตที่ 3.0% ในไตรมาสสอง
เทรดเดอร์ระบุว่า การแสดงความเห็นของเฟดและขนาดการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในวันพุธจะเป็นปัจจัยสำคัญที่กระตุ้นความเคลื่อนไหวในตลาดปริวรรตเงินตรา โดยนายนาธาน สวามี หัวหน้าฝ่ายการค้าสกุลเงินของธนาคารซิตี้กรุ๊ประบุว่า "ถ้าหากเฟดส่งสัญญาณแบบสายพิราบว่าจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอย่างมากในอนาคต ปัจจัยดังกล่าวก็น่าจะส่งผลให้ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลง" อย่างไรก็ดี ถ้าหากเฟดส่งสัญญาณแบบสายพิราบเป็นอย่างมาก นักลงทุนก็อาจจะกังวลว่า เศรษฐกิจสหรัฐอาจจะตกต่ำลงอย่างรุนแรงเกินคาดในอนาคต และปัจจัยดังกล่าวอาจจะส่งผลลบต่อสกุลเงินของประเทศตลาดเกิดใหม่ และสกุลเงินที่มีความเสี่ยงสูง ทั้งนี้ นักลงทุนรอดูตัวเลขอัตราเงินเฟ้อขั้นสุดท้ายประจำเดือนส.ค.ของยูโรโซนที่จะได้รับการรายงานออกมาในวันนี้ แต่นักลงทุนคาดว่า ตัวเลขดังกล่าวจะอยู่ใกล้เคียงกับตัวเลขอัตราเงินเฟ้อขั้นต้น
ปอนด์ยังคงพุ่งขึ้นมาแล้วราว 3.46% จากช่วงต้นปีนี้ และส่งผลให้ปอนด์ถือเป็นสกุลเงินที่พุ่งขึ้นมากที่สุดในบรรดาสกุลเงินกลุ่มจี-10 ในปีนี้ โดยปอนด์ได้รับแรงหนุนจากความแข็งแกร่งทางเศรษฐกิจของอังกฤษ และจากอัตราเงินเฟ้อที่ลดลงได้ยากในอังกฤษ ในขณะที่นักลงทุนรอดูตัวเลขอัตราเงินเฟ้อของอังกฤษที่จะได้รับการรายงานออกมาในช่วงต่อไปในวันนี้ ทั้งนี้ นักลงทุนคาดว่า มีโอกาส 65% ที่ธนาคารกลางอังกฤษ (บีโออี) จะตรึงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ 5.00% ตามเดิมในการประชุมวันที่ 19 ก.ย. หลังจากบีโออีเริ่มต้นวัฏจักรการปรับลดอัตราดอกเบี้ยไปแล้วในเดือนส.ค. และนักลงทุนก็คาดว่า มีโอกาส 35% ที่บีโออีอาจจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25% สู่ 4.75% ในการประชุมวันที่ 19 ก.ย.--จบ--
Eikon source text
(รอยเตอร์ โดย จิตร โพธิ์แก้ว แปลและเรียบเรียง)
((jit.phokaew@thomsonreuters.com; โทร 08-7689-6043;
นิวยอร์ค--18 ก.ย.--รอยเตอร์
ดอลลาร์แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินสำคัญส่วนใหญ่ในวันอังคาร หลังจากกระทรวงพาณิชย์สหรัฐรายงานตัวเลขยอดค้าปลีกที่ดีเกินคาด และตัวเลขดังกล่าวช่วยสนับสนุนการคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงเพียง 0.25% ในการประชุมวันที่ 17-18 ก.ย. ซึ่งจะถือเป็นการปรับลดอัตราดอกเบี้ยครังแรกนับตั้งแต่เดือนมี.ค. 2020 เป็นต้นมา หรือการปรับลดอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกในรอบกว่า 4 ปี ทั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐรายงานในวันอังคารว่า ยอดค้าปลีกสหรัฐปรับขึ้น 0.1% ในเดือนส.ค. หลังจากพุ่งขึ้น 1.1% ในเดือนก.ค. และสวนทางกับตัวเลขคาดการณ์ของนักเศรษฐศาสตร์ในโพลล์รอยเตอร์ที่คาดว่า ยอดค้าปลีกอาจปรับลดลง 0.2% ในเดือนส.ค. โดยรายงานนี้บ่งชี้ว่า เศรษฐกิจสหรัฐยังคงเติบโตอย่างแข็งแกร่งในไตรมาสสาม ในขณะที่ยอดสั่งซื้อสินค้าออนไลน์อยู่ในระดับที่แข็งแกร่ง และปัจจัยบวกนี้ช่วยบดบังยอดขายที่ลดลงในบริษัทตัวแทนจำหน่ายรถยนต์
ดัชนีดอลลาร์เมื่อเทียบกับตะกร้าสกุลเงินอยู่ที่ 100.91 ในช่วงท้ายตลาดวันอังคาร โดยแข็งค่าขึ้นจาก 100.70 ในช่วงท้ายตลาดวันจันทร์
ดอลลาร์/เยนอยู่ที่ 142.40 เยนในช่วงท้ายตลาดวันอังคาร โดยพุ่งขึ้นจากระดับปิดตลาดวันจันทร์ที่ 140.60 เยน
ยูโร/ดอลลาร์อยู่ที่ 1.1113 ดอลลาร์ในช่วงท้ายวันอังคาร โดยอ่อนค่าลงจาก 1.1132 ดอลลาร์ในช่วงท้ายวันจันทร์ แต่ยังคงอยู่ใกล้กับจุดสูงสุดของปีนี้ที่ 1.1201 ดอลลาร์
นักลงทุนคาดการณ์ในตอนนี้ว่า มีโอกาส 65% ที่เฟดอาจจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.50% สู่ 4.75-5.00% ในการประชุมวันที่ 17-18 ก.ย. โดยโอกาสดังกล่าวพุ่งขึ้นจากระดับราว 30% ที่เคยคาดไว้ในสัปดาห์ที่แล้ว และนักลงทุนก็คาดการณ์ในตอนนี้ว่า มีโอกาส 35% ที่เฟดอาจจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25% สู่ 5.00-5.25% ในการประชุมวันที่ 17-18 ก.ย. ทั้งนี้ ตัวเลขเศรษฐกิจอื่น ๆ ที่ออกมาในวันพุธช่วยสนับสนุนให้เฟดปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงเพียง 0.25% เช่นกัน โดยกระทรวงพาณิชย์สหรัฐรายงานในวันพุธว่า สต็อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจปรับขึ้น 0.4% ในเดือนก.ค. หลังจากปรับขึ้น 0.3% ในเดือนมิ.ย. และอยู่สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักเศรษฐศาสตร์ที่ +0.3% ในเดือนก.ค.เมื่อเทียบรายเดือน โดยรายงานนี้บ่งชี้ว่า การลงทุนในสต็อกสินค้าคงคลังอาจจะมีส่วนช่วยหนุนการเติบโตทางเศรษฐกิจในไตรมาสสาม ทางด้านเฟดรายงานในวันอังคารว่า ผลผลิตภาคโรงงานของสหรัฐพุ่งขึ้น 0.9% ในเดือนส.ค. หลังจากร่วงลง 0.7% ในเดือนก.ค. และเทียบกับโพลล์รอยเตอร์ที่คาดว่า ผลผลิตภาคโรงงานอาจปรับขึ้นเพียง 0.3% ในเดือนส.ค.
ธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) มีแนวโน้มที่จะตรึงเป้าหมายอัตราดอกเบี้ยนโยบายระยะสั้นไว้ที่ 0.25% ตามเดิมในการประชุมกำหนดนโยบายในวันศุกร์นี้ หลังจากบีโอเจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยมาแล้ว 2 ครั้งในปีนี้ แต่บีโอเจมีแนวโน้มที่จะส่งสัญญาณว่า บีโอเจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไปในอนาคต ซึ่งจะส่งผลให้การประชุมของบีโอเจในวันที่ 30-31 ต.ค.กลายเป็นการประชุมที่มีความสำคัญ
ปอนด์ร่วงลงจาก 1.3216 ดอลลาร์ในช่วงท้ายวันจันทร์ สู่ 1.3163 ดอลลาร์ในช่วงท้ายวันอังคาร แต่ปอนด์ยังคงพุ่งขึ้นมาแล้วราว 3.5% จากช่วงต้นปีนี้ และส่งผลให้ปอนด์ถือเป็นสกุลเงินที่พุ่งขึ้นมากที่สุดในบรรดาสกุลเงินกลุ่มจี-10 ในปีนี้ โดยปอนด์ได้รับแรงหนุนจากความแข็งแกร่งทางเศรษฐกิจของอังกฤษ และจากอัตราเงินเฟ้อที่ลดลงได้ยากในอังกฤษ ทั้งนี้ นักลงทุนคาดว่า มีโอกาส 65% ที่ธนาคารกลางอังกฤษ (บีโออี) จะตรึงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ 5.00% ตามเดิมในการประชุมวันที่ 19 ก.ย. หลังจากบีโออีเริ่มต้นวัฏจักรการปรับลดอัตราดอกเบี้ยไปแล้วในเดือนส.ค. และนักลงทุนก็คาดว่า มีโอกาส 35% ที่บีโออีอาจจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25% สู่ 4.75% ในการประชุมวันที่ 19 ก.ย.--จบ--
--จบ--
Eikon source text
(รอยเตอร์ โดย จิตร โพธิ์แก้ว แปลและเรียบเรียง)
((jit.phokaew@thomsonreuters.com; โทร 08-7689-6043;
ไวท์เลเบล
Data API
ปลั๊กอินเว็บไซต์
เครื่องมือออกแบบโปสเตอร์
โครงการพันธมิตร
ความเสี่ยงของการสูญเสียในการซื้อขายสินทรัพย์ทางการเงิน เช่น หุ้น FX สินค้าโภคภัณฑ์ ฟิวเจอร์ส พันธบัตร ETFs หรือเงินดิจิทัลอาจมีมาก คุณอาจสูญเสียเงินทุนทั้งหมดที่คุณฝากไว้กับโบรกเกอร์ของคุณ ดังนั้น คุณควรพิจารณาอย่างรอบคอบว่าการซื้อขายดังกล่าวเหมาะสมกับคุณหรือไม่ในสถานการณ์และทรัพยากรทางการเงินของคุณ
ไม่ควรตัดสินใจลงทุนโดยไม่ได้ดำเนินการตรวจสอบสถานะอย่างละเอียดถี่ถ้วนด้วยตัวเองหรือปรึกษากับที่ปรึกษาทางการเงินของคุณ เนื้อหาเว็บของเราอาจไม่เหมาะกับคุณเนื่องจากเราไม่ทราบเงื่อนไขทางการเงินและความต้องการในการลงทุนของคุณ ข้อมูลทางการเงินของเราอาจมีความล่าช้าหรือมีความไม่ถูกต้อง ดังนั้นคุณควรรับผิดชอบอย่างเต็มที่ต่อการตัดสินใจซื้อขายและการลงทุนของคุณ บริษัทจะไม่รับผิดชอบต่อการสูญเสียเงินทุนของคุณ
หากไม่ได้รับอนุญาตจากเว็บไซต์ คุณจะไม่สามารถคัดลอกกราฟิก ข้อความ หรือเครื่องหมายการค้าของเว็บไซต์ได้ สิทธิ์ในทรัพย์สินทางปัญญาในเนื้อหาหรือข้อมูลที่รวมอยู่ในเว็บไซต์นี้เป็นของผู้ให้บริการและผู้ค้าแลกเปลี่ยน