JPMorgan

แม้ว่าอาจเร็วเกินไปที่เฟดจะรวมผลกระทบของภาษีศุลกากรเข้ากับการตัดสินใจเกี่ยวกับนโยบายการเงิน แต่ข้อมูลปัจจุบันเกี่ยวกับการเติบโตที่ยืดหยุ่น ตลาดแรงงานที่แข็งแกร่ง และปัจจัยอื่นๆ ชี้ให้เห็นว่าเส้นทางของเฟดจะเป็นแบบค่อยเป็นค่อยไป โดยอาจยุติที่ระดับที่สูงกว่าการคาดการณ์ล่าสุด

งานเร่งด่วนที่สุดที่นักลงทุนต้องเผชิญหลังการเลือกตั้งในปี 2024 คือการหาคำตอบว่านโยบายของทรัมป์ ซึ่งได้สรุปคร่าว ๆ ในช่วงการหาเสียง จะมีการนำไปปฏิบัติจริงมากน้อยแค่ไหน

ในการประชุมครั้งสุดท้ายของปี 2567 คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของรัฐบาลกลาง (FOMC) ลงมติอย่างเป็นเอกฉันท์ที่จะลดอัตราดอกเบี้ยเงินทุนของรัฐบาลกลางลง 25 จุดพื้นฐานสู่ช่วงเป้าหมายที่ 4.50-4.75%

วงจรการผ่อนคลายยังคงดำเนินต่อไป ต่อไปนี้คือผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นกับพอร์ตโฟลิโอของคุณ

หุ้นสหรัฐฯ ยังคงได้รับแรงหนุน โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากการเติบโตอย่างแข็งแกร่งและผลกำไรที่เพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม ความเสี่ยงจากผลตอบแทนระยะยาวที่สูงขึ้นและผลกระทบจากภาษีศุลกากรดูเหมือนจะไม่สะท้อนให้เห็นในราคาตลาด และอาจสร้างความผันผวนในอนาคต

การเติบโตในระดับปานกลางสนับสนุนผลตอบแทนจากหุ้น และการปรับลดอัตราดอกเบี้ยอาจช่วยในการฟื้นตัวตามวัฏจักรและกระจายโอกาส

จากกรณีฐานของเราซึ่งเป็นการลงจอดแบบนุ่มนวล อัตราดอกเบี้ยระยะสั้นมีแนวโน้มที่จะลดลงเนื่องจากอัตราดอกเบี้ยของนโยบายที่ลดลง ส่งผลให้ความน่าดึงดูดใจของตราสารที่คล้ายเงินสดลดลง

แม้จะมีทัศนคติที่ไม่ค่อยดี แต่ชาวอเมริกันก็ยังไม่หยุดจับจ่าย คาดว่าการบริโภคจะเติบโตอย่างมั่นคงที่ 3% ต่อปีในไตรมาสที่ 3 ซึ่งสนับสนุนให้รายได้ของบริษัทในสหรัฐฯ เติบโตอย่างต่อเนื่อง

วงจรการลดอัตราดอกเบี้ยของเฟดน่าจะช่วยลดอัตราดอกเบี้ยจำนองในระยะยาว แต่จะมีผลกระทบมากกว่าสำหรับอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น