ตลาด
ข่าวสาร
การวิเคราะห์
ผู้ใช้
24x7
ปฏิทินเศรษฐกิจ
แหล่งเรียนรู้
ข้อมูล
- ชื่อ
- ค่าล่าสุด
- ครั้งก่อน
[นักวิเคราะห์: ธนาคารกลางสหรัฐจะไม่ปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปี 2025] 22 มกราคม Thanos Papasavvas ผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการลงทุนของ Abp Invest กล่าวว่ามุมมองของตลาดต่ออัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐภายใต้การนำของประธานาธิบดีทรัมป์ในปี 2025 นั้นไม่ถูกต้อง และความยืดหยุ่นของเศรษฐกิจสหรัฐและนโยบายของทรัมป์จะนำไปสู่การที่เฟดปรับลดอัตราดอกเบี้ย นอกจากนี้ เขายังระบุด้วยว่าเขาไม่เชื่อว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปี 2025 และเขาไม่เชื่อว่าเฟดได้ผ่านรอบการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยแล้ว แต่เขามองว่าความยืดหยุ่นของเศรษฐกิจสหรัฐและนโยบายของทรัมป์จะทำให้คาดการณ์เงินเฟ้อสูงขึ้น และบังคับให้พาวเวลล์เริ่มปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยตั้งแต่เดือนกันยายน การให้เหตุผลของ Papasavvas ขึ้นอยู่กับปัจจัยสำคัญสามประการ ประการแรกคือเศรษฐกิจสหรัฐ ตัวชี้วัดเศรษฐกิจชั้นนำ ตลอดจนข้อมูลเกี่ยวกับความเชื่อมั่นของผู้บริโภค ผลกำไรขององค์กร และกิจกรรมภาคบริการ บ่งชี้ว่าตั้งแต่เดือนสิงหาคมปีที่แล้ว เศรษฐกิจสหรัฐอยู่ในโหมดการขยายตัวที่ชัดเจน ปัจจัยที่สองคือนโยบายของทรัมป์ เมื่อรวมกับความยืดหยุ่นทางเศรษฐกิจแล้ว คาดว่านโยบายเหล่านี้จะส่งผลให้อัตราดอกเบี้ยสูงขึ้น สิ่งที่ "รู้แต่ไม่รู้" คือ นโยบายใดที่ทรัมป์จะนำไปปฏิบัติ เขาจะดำเนินนโยบายเหล่านี้อย่างแข็งกร้าวเพียงใด และจะนำไปปฏิบัติเมื่อใด ปัจจัยที่สามคือความน่าเชื่อถือของเฟด หากเศรษฐกิจสหรัฐฯ ประกอบกับนโยบายของทรัมป์ ไม่ก่อให้เกิดแรงกดดันเงินเฟ้อสูงขึ้น นั่นอาจเป็นเพราะเศรษฐกิจตกต่ำอย่างไม่คาดคิด หรืออาจเป็นเพราะว่าเจเน็ต เยลเลน ผู้ได้รับการเสนอชื่อให้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีกระทรวงการคลังสนับสนุนให้ทรัมป์ใช้นโยบายที่ยึดถือปฏิบัติมากขึ้น ซึ่งในกรณีนี้ ปาปาซาววัสไม่เชื่อว่าเฟดจะเห็นถึงความจำเป็นในการขึ้นอัตราดอกเบี้ย
ข่าวด่วน 24x7
เข้าถึงข่าวสารเฉพาะคุณเรียลไทม์
ดูวิดีโอสุดพิเศษได้ฟรี
ทีมงานโครงการ FastBull ทุ่มเทให้กับการสร้างวิดีโอสุดพิเศษเฉพาะสมาชิกเท่านั้นที่สามารถดูได้
ติดตามสินทรัพย์เพิ่มเติม
คุณสามารถเพิ่มสินทรัพย์ลงในรายการเฝ้าดูของคุณมากขึ้น
ข้อมูลมหภาคและตัวชี้วัดทางเศรษฐกิจที่ครอบคลุมยิ่งขึ้น
ข้อมูลย้อนหลังที่ครอบคลุมมากขึ้นเกี่ยวกับตัวบ่งชี้เพื่อช่วยวิเคราะห์ตลาดมหภาค
ข้อมูลสมาชิกพิเศษ
ข้อมูลฟอเร็กซ์ สินค้าโภคภัณฑ์ และตลาดตราสารทุนที่ครอบคลุมมากขึ้น