ตลาด
ข่าวสาร
การวิเคราะห์
ผู้ใช้
24x7
ปฏิทินเศรษฐกิจ
แหล่งเรียนรู้
ข้อมูล
- ชื่อ
- ค่าล่าสุด
- ครั้งก่อน
ค:--
ค: --
ค: --
ค:--
ค: --
ค:--
ค: --
ค:--
ค: --
ค: --
ค:--
ค: --
ค: --
ค:--
ค: --
ค: --
ค:--
ค: --
ค: --
ค:--
ค: --
ค: --
ค:--
ค: --
ค: --
ค:--
ค: --
ค: --
ค:--
ค: --
ค: --
ค:--
ค: --
ค: --
ค:--
ค: --
ค: --
ค:--
ค: --
ค: --
ค:--
ค: --
ค: --
ค:--
ค: --
ค: --
ค:--
ค: --
ค: --
ค:--
ค: --
ค: --
ค:--
ค: --
ค:--
ค: --
ค: --
ค:--
ค: --
ค: --
ค:--
ค: --
ค: --
ค:--
ค: --
ค: --
ค:--
ค: --
ค: --
ค:--
ค: --
ค: --
ค:--
ค: --
ค: --
ค:--
ค: --
ค: --
ค:--
ค: --
ค: --
ค:--
ค: --
ค: --
--
ค: --
ค: --
--
ค: --
ค: --
--
ค: --
ค: --
--
ค: --
ค: --
--
ค: --
ค: --
--
ค: --
ค: --
--
ค: --
ค: --
--
ค: --
ค: --
--
ค: --
ค: --
--
ค: --
ค: --
--
ค: --
ค: --
--
ค: --
ค: --
--
ค: --
ค: --
--
ค: --
ค: --
--
ค: --
ค: --
--
ค: --
ค: --
--
ค: --
ค: --
--
ค: --
ค: --
--
ค: --
ค: --
--
ค: --
ค: --
--
ค: --
ค: --
--
ค: --
ค: --
--
ค: --
ค: --
--
ค: --
ค: --
--
ค: --
ค: --
--
ค: --
ค: --
--
ค: --
ค: --
--
ค: --
ค: --
--
ค: --
ค: --
--
ค: --
ค: --
ไม่มีข้อมูลที่ตรงกัน
ทัศนคติล่าสุด
ทัศนคติล่าสุด
หัวข้อยอดนิยม
เพื่อเรียนรู้การเปลี่ยนแปลงของตลาดอย่างรวดเร็วและติดตามตลาดโฟกัสใน 15 นาที
ในโลกของมนุษยชาติ จะไม่มีคำกล่าวใด ๆ ที่ไม่มีจุดยืนใด ๆ หรือคำพูดใด ๆ ที่ไม่มีจุดประสงค์ใด ๆ
อัตราเงินเฟ้อ อัตราแลกเปลี่ยน และเศรษฐกิจเป็นตัวกำหนดการตัดสินใจเชิงนโยบายของธนาคารกลาง ทัศนคติและคำพูดของเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางยังมีอิทธิพลต่อการกระทำของเทรดเดอร์ในตลาดอีกด้วย
เงินทำให้โลกหมุนไป และสกุลเงินเป็นสินค้าถาวร ตลาดฟอเร็กซ์เต็มไปด้วยความประหลาดใจและความคาดหวัง
คอลัมนิสต์ยอดนิยม
เพลิดเพลินกับกิจกรรมที่น่าตื่นเต้น ที่นี่ที่ FastBull
ข่าวด่วนล่าสุดและเหตุการณ์ทางการเงินทั่วโลก
ฉันมีประสบการณ์ 5 ปีในการวิเคราะห์ทางการเงิน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านการพัฒนามหภาคและการตัดสินแนวโน้มระยะกลางและระยะยาว ความสนใจของฉันอยู่ที่การพัฒนาของตะวันออกกลาง ตลาดเกิดใหม่ ถ่านหิน ข้าวสาลี และสินค้าเกษตรอื่นๆ
7 ปีของตลาดหุ้น การแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ โลหะมีค่า และประสบการณ์การซื้อขายและการวิเคราะห์อื่น ๆ โดยอาศัยปัจจัยพื้นฐาน การสนับสนุนทางเทคนิค มีอคติต่อตรรกะธุรกรรมจากบนลงล่าง โดยเน้นที่วัฏจักรมหภาคและการควบคุมความเสี่ยง การคาดการณ์เชิงทฤษฎีอุปสงค์และอุปทานอเนกประสงค์ การเปลี่ยนแปลงของราคา สร้างสมดุลระหว่างผลกระทบของธุรกรรม การกระจายชิปและอารมณ์ตลาด และคงที่
อัปเดตล่าสุด
สร้างทัศนคติการลงทุนที่ดี
วอร์เรน บัฟเฟตต์ได้รับเกียรติให้เป็นหนึ่งในนักลงทุนที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ ปรัชญาการลงทุนของเขาประกอบด้วยการสร้างกรอบความคิดระยะยาว ขจัดญาณรบกวนของตลาด ไม่เก็งกำไร และเน้นย้ำว่าการลงทุนต้องมีมีจิตใจที่มั่นคงและเป้าหมายที่ชัดเจน
คำเตือนเกี่ยวกับความเสี่ยงในการลงทุนในตลาดหุ้นฮ่องกง
แม้ว่าระบบกฎหมายและกรอบการกำกับดูแลในฮ่องกงจะค่อนข้างสมบูรณ์ แต่ตลาดหุ้นยังคงเผชิญกับความเสี่ยงและความท้าทายพิเศษหลายประการ เช่น ความสัมพันธ์ระหว่าง HKD และ USD นักลงทุนต่างชาติอาจเผชิญกับความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยน ความผันผวนของนโยบายและสถานการณ์ทางเศรษฐกิจของจีนแผ่นดินใหญ่อาจส่งผลกระทบต่อตลาดหุ้นฮ่องกงด้วย
โครงสร้างต้นทุนและภาษีเมื่อลงทุนในหุ้นฮ่องกง
ต้นทุนการซื้อขายในตลาดหุ้นฮ่องกง ได้แก่ ค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรมหุ้น ค่าอากรแสตมป์ ค่าธรรมเนียมการชำระบัญชี ฯลฯ สำหรับนักลงทุนต่างชาติอาจมีค่าธรรมเนียมการแปลงสกุลเงินเพิ่มเติมเป็นดอลลาร์ฮ่องกงและภาษีอื่น ๆ ตามข้อบังคับท้องถิ่น
การวิเคราะห์อุตสาหกรรมฮ่องกง:อุตสาหกรรมสินค้าอุปโภคบริโภคที่ไม่จำเป็น
อุตสาหกรรมสินค้าอุปโภคบริโภคที่ไม่จำเป็นของฮ่องกง ได้แก่ รถยนต์ การศึกษา การท่องเที่ยว การจัดเลี้ยง เครื่องแต่งกาย และภาคส่วนอื่นๆ อีกมากมาย จากบริษัทจดทะเบียน 643 แห่งนั้น 35% เป็นบริษัทในจีนแผ่นดินใหญ่และคิดเป็น 65% ของมูลค่าตลาดทั้งหมด ดังนั้นอุตสาหกรรมนี้จึงได้รับอิทธิพลอย่างลึกซึ้งจากเศรษฐกิจจีน
ฮ่องกง,ประเทศจีน
นครโฮจิมินห์, เวียดนาม
ดูไบ, UAE
ลากอส, ไนจีเรีย
ไคโร, อียิปต์
ไวท์เลเบล
Data API
ปลั๊กอินเว็บไซต์
โครงการพันธมิตร
ดูผลการค้นหาทั้งหมด
ไม่มีข้อมูล
ไม่ได้ล็อกอิน
เข้าสู่ระบบเพื่อเข้าถึงฟังก์ชั่นเพิ่มเติม
สมาชิก FastBull
ยังไม่ได้เปิด
สมัคร
เข้าสู่ระบบ
ลงทะเบียน
ฮ่องกง,ประเทศจีน
นครโฮจิมินห์, เวียดนาม
ดูไบ, UAE
ลากอส, ไนจีเรีย
ไคโร, อียิปต์
ไวท์เลเบล
Data API
ปลั๊กอินเว็บไซต์
โครงการพันธมิตร
นิวยอร์ค--20 มี.ค.--รอยเตอร์
ราคาน้ำมันดิบในตลาดล่วงหน้า NYMEX ดิ่งลงในวันศุกร์ตามตลาดหุ้น ในขณะที่ตลาดหุ้นได้รับแรงกดดันจากความกังวลที่มีต่อภาคธนาคาร และความกังวลที่ว่าเศรษฐกิจอาจจะเข้าสู่ภาวะถดถอย โดยหุ้นกลุ่มการเงินในสหรัฐถือเป็นหุ้นกลุ่มที่ดิ่งลงมากที่สุดในวันศุกร์ ทั้งนี้ นักลงทุนกังวลกับวิกฤติภาคธนาคารในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา หลังจากมีการสั่งปิดกิจการธนาคารซิลิคอน แวลลีย์ (SVB) ในวันที่ 10 มี.ค., มีการสั่งปิดกิจการธนาคารซิกเนเจอร์ในวันที่ 12 มี.ค., ธนาคารเครดิต สวิสประสบปัญหา และธนาคารเฟิร์สท์ รีพับลิกในสหรัฐประสบปัญหาด้วยเช่นกัน โดยราคาน้ำมันดิบดิ่งลงไปอีกในวันศุกร์ หลังจากบริษัทเอสวีบี ไฟแนนเชียล กรุ๊ปประกาศว่า ทางบริษัทจะยื่นเรื่องเพื่อขอฟื้นฟูกิจการในการล้มละลายตามหมวด 11
ราคาน้ำมันดิบสหรัฐส่งมอบเดือนเม.ย.รูดลง 1.61 ดอลลาร์ หรือ 2.4% มาปิดตลาดที่ 66.74 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนราคาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนพ.ค.ที่ตลาดกรุงลอนดอนดิ่งลง 1.73 ดอลลาร์ หรือ 2.3% มาปิดตลาดที่ 72.97 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล โดยราคาน้ำมันดิบสหรัฐปิดตลาดสัปดาห์นี้ด้วยการดิ่งลง 13% จากสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งถือเป็นการดิ่งลงรายสัปดาห์ครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่เดือนเม.ย. 2022 ส่วนเบรนท์ปิดตลาดสัปดาห์นี้ด้วยการรูดลงเกือบ 12% จากสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งถือเป็นการดิ่งลงรายสัปดาห์ครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่เดือนธ.ค. 2022
นายจอห์น คิลดัฟ หุ้นส่วนของบริษัทอะเกน แคปิตัลกล่าวว่า ปัจจัยพื้นฐานไม่ได้อยู่ในภาวะเลวร้ายมากนัก แต่นักลงทุนกังวลว่าน้ำมันไม่ใช่การลงทุนที่มีความปลอดภัยมากเท่ากับการถือครองเงินสดหรือทองคำ ทั้งนี้ นักวิเคราะห์ยังคงคาดการณ์ว่า การที่อุปทานน้ำมันในตลาดโลกมีปริมาณไม่มากนักจะช่วยหนุนราคาน้ำมันในอนาคตอันใกล้นี้ ทางด้านสมาชิกของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมันและชาติพันธมิตร (โอเปกพลัส) ระบุว่า การดิ่งลงของราคาน้ำมันในสัปดาห์นี้เกิดจากภาคการเงิน และไม่ได้เกิดจากภาวะไม่สมดุลระหว่างอุปสงค์กับอุปทาน และสมาชิกโอเปกพลัสคาดว่าตลาดน้ำมันจะเข้าสู่เสถียรภาพในอนาคต
ราคาน้ำมันดิบสหรัฐเพิ่งดิ่งลงแตะระดับ 65.17 ดอลลาร์ในวันศุกร์ ซึ่งถือเป็นจุดต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนธ.ค. 2021 และปัจจัยนี้อาจจะกระตุ้นให้รัฐบาลสหรัฐเริ่มต้นนำน้ำมันเข้ามาเติมในคลังสำรองปิโตรเลียมทางยุทธศาสตร์ (SPR) ซึ่งจะส่งผลให้อุปสงค์น้ำมันเพิ่มสูงขึ้น ทั้งนี้ นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า การฟื้นตัวของอุปสงค์น้ำมันในจีนจะช่วยหนุนราคาน้ำมันด้วย โดยมีการคาดการณ์กันว่าจะมีการขนถ่ายน้ำมันดิบสหรัฐอย่างน้อย 14 ล้านบาร์เรลในเดือนมี.ค.เพื่อส่งออกไปยังจีน ซึ่งจะถือเป็นยอดส่งออกน้ำมันดิบสหรัฐสู่จีนที่สูงที่สุดนับตั้งแต่เดือนต.ค. 2020 เป็นต้นมา ในขณะที่การดิ่งลงของราคาน้ำมันดิบสหรัฐในสัปดาห์นี้ส่งผลให้น้ำมันดิบสหรัฐมีราคาถูกกว่าน้ำมันดิบดูไบราว 10 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
บริษัทเบเกอร์ ฮิวจ์สรายงานในวันศุกร์ว่า จำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันที่ใช้งานในสหรัฐลดลง 1 แท่น สู่ 589 แท่นในช่วงสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 17 มี.ค. แต่จำนวนแท่นขุดเจาะก๊าซธรรมชาติที่ใช้งานในสหรัฐพุ่งขึ้น 9 แท่นในสัปดาห์นี้ ซึ่งส่งผลให้จำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันและก๊าซในสหรัฐปรับขึ้นรวมกัน 8 แท่น สู่ 754 แท่น--จบ--
Eikon source text
(รอยเตอร์ โดย จิตร โพธิ์แก้ว แปลและเรียบเรียง)
((jit.phokaew@thomsonreuters.com; โทร 08-7689-6043;
นิวยอร์ค--2 มี.ค.--รอยเตอร์
ราคาน้ำมันดิบในตลาดล่วงหน้า NYMEX ปรับขึ้นในวันพุธ โดยได้รับแรงหนุนจากความคาดหวังที่ว่าอุปสงค์น้ำมันจะพุ่งสูงขึ้น หลังจากจีนรายงานตัวเลขภาคการผลิตที่แข็งแกร่ง และจีนถือเป็นประเทศที่นำเข้าน้ำมันดิบมากที่สุดในโลก อย่างไรก็ดี ราคาน้ำมันปรับขึ้นได้ไม่มากนัก เนื่องจากราคาน้ำมันได้รับแรงกดดันจากสัญญาณบ่งชี้ว่าอุปทานน้ำมันอยู่ในระดับสูง ซึ่งรวมถึงตัวเลขสต็อกน้ำมันในคลังสหรัฐที่ปรับสูงขึ้น ทั้งนี้ ทางการจีนรายงานในวันพุธว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตของจีนพุ่งขึ้นสู่ 52.6 ในเดือนก.พ. ซึ่งถือเป็นจุดสูงสุดนับตั้งแต่เดือนเม.ย. 2012 หรือจุดสูงสุดในรอบกว่า 10 ปี โดยทะยานขึ้นจาก 50.1 ในเดือนม.ค. ส่วนไคซินกับบริษัทเอสแอนด์พี โกลบอลรายงานว่า ดัชนี PMI ภาคการผลิตของจีนพุ่งขึ้นจาก 49.2 ในเดือนม.ค. สู่ 51.6 ในเดือนก.พ. ซึ่งถือเป็นจุดสูงสุดนับตั้งแต่เดือนมิ.ย. 2022 โดยดัชนีที่ระดับสูงกว่า 50 แสดงให้เห็นว่ากิจกรรมภาคการผลิตขยายตัว
ราคาน้ำมันดิบสหรัฐส่งมอบเดือนเม.ย.ปรับขึ้น 64 เซนต์ หรือ 0.8% มาปิดตลาดที่ 77.69 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนราคาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนพ.ค.ที่ตลาดกรุงลอนดอนพุ่งขึ้น 86 เซนต์ หรือ 1% มาปิดตลาดที่ 84.31 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ทั้งนี้ นายโจวานนี สเตาโนโว นักวิเคราะห์ของธนาคาร UBS ระบุว่า การที่ส่วนต่างระหว่างราคาน้ำมันดิบสหรัฐกับราคาน้ำมันดิบเบรนท์ขยายกว้างมากยิ่งขึ้นมีส่วนทำให้ยอดส่งออกน้ำมันดิบสหรัฐพุ่งขึ้นทำสถิติสูงสุดใหม่ที่ 5.6 ล้านบาร์เรลต่อวันในสัปดาห์ที่แล้ว และส่งผลให้ตัวเลขสต็อกน้ำมันดิบในคลังสหรัฐปรับขึ้นในสัปดาห์ที่แล้วในระดับที่น้อยกว่าสัปดาห์ก่อน ๆ
สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) รายงานในวันพุธว่า สต็อกน้ำมันดิบในคลังสหรัฐปรับขึ้น 1.2 ล้านบาร์เรล สู่ 480.2 ล้านบาร์เรลในช่วงสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 24 ก.พ. ซึ่งถือเป็นจุดสูงสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ค. 2021 และถือเป็นการปรับขึ้นเป็นสัปดาห์ที่ 10 ติดต่อกัน ในขณะที่นักวิเคราะห์ในโพลล์รอยเตอร์คาดไว้ก่อนหน้านี้ว่า สต็อกน้ำมันดิบอาจปรับขึ้นเพียง 457,000 บาร์เรล ทั้งนี้ EIA ระบุอีกด้วยว่า สต็อกน้ำมันเบนซินในคลังสหรัฐร่วงลง 900,000 บาร์เรล สู่ 239.2 ล้านบาร์เรล, สต็อกน้ำมัน distillate ในคลังสหรัฐ ซึ่งครอบคลุมน้ำมันดีเซลและน้ำมัน heating oil ปรับขึ้น 0.2 ล้านบาร์เรล สู่ 122.1 ล้านบาร์เรล ซึ่งถือเป็นจุดสูงสุดนับตั้งแต่เดือนม.ค. 2022 ส่วนอัตราการใช้กำลังการกลั่นน้ำมันขยับลง 0.1% สู่ 85.8%
หนังสือพิมพ์คอมเมอร์แซนท์รายงานว่า ปริมาณการผลิตน้ำมันของรัสเซียพุ่งขึ้นมาอยู่ในระดับเดียวกับในช่วงก่อนมาตรการคว่ำบาตรได้เป็นครั้งแรกในเดือนก.พ. ในขณะที่บริษัทน้ำมันของรัสเซียปรับเพิ่มปริมาณการผลิตน้ำมันและก๊าซธรรมชาติเหลวขึ้นเกือบ 2% จากเดือนม.ค. สู่ระดับราว 1.508 ล้านตันต่อวันในเดือนก.พ.
แหล่งข่าวกล่าวว่า บริษัทลุคออยล์ ซึ่งเป็นบริษัทผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่อันดับ 2 ของรัสเซีย ได้กำหนดให้มีการขนถ่ายน้ำมันดิบยูราลส์จากเรือสู่เรือ (STS) ใกล้ท่าเรือเมืองคาลินินกราดของรัสเซียที่อยู่ริมทะเลบอลติก ทั้งนี้ ปริมาณการขนถ่ายน้ำมันดิบยูราลส์ของรัสเซียแบบ STS ในทะเลเมดิเตอร์เรเนียนเพิ่งพุ่งขึ้นสู่สถิติสูงสุดใหม่ในเดือนม.ค. เนื่องจากเทรดเดอร์ขนถ่ายน้ำมันลงสู่เรือที่มีขนาดใหญ่ขึ้น เพื่อจะได้ประหยัดเงินได้มากยิ่งขึ้นสำหรับการขนส่งน้ำมันระยะไกลไปยังทวีปเอเชีย--จบ--
Eikon source text
(รอยเตอร์ โดย จิตร โพธิ์แก้ว แปลและเรียบเรียง)
((jit.phokaew@thomsonreuters.com; โทร 08-7689-6043;
นิวยอร์ค--20 ก.พ.--รอยเตอร์
ราคาน้ำมันดิบในตลาดล่วงหน้า NYMEX ดิ่งลงในวันศุกร์ ในขณะที่เทรดเดอร์กังวลว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีแนวโน้มจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไปในอนาคต และปัจจัยดังกล่าวจะส่งผลลบต่ออุปสงค์น้ำมัน นอกจากนี้ ราคาน้ำมันยังได้รับแรงกดดันจากสัญญาณบ่งชี้ว่า อุปทานน้ำมันดิบและเชื้อเพลิงจะอยู่ในระดับสูงด้วย ทั้งนี้ ลอเรตตา เมสเตอร์ ประธานเฟดสาขาคลีฟแลนด์กล่าวในวันพฤหัสบดีว่า อัตราเงินเฟ้อยังคงอยู่ในระดับที่สูงเกินไป และเฟด "ได้ดำเนินการไปมากแล้วในการปรับนโยบายออกจากจุดยืนที่มีความผ่อนคลายเป็นอย่างมาก มาเป็นจุดยืนที่มีความเข้มงวด แต่ดิฉันเชื่อว่าเฟดยังคงมีงานที่ต้องทำต่อไป" ทางด้านนายเจมส์ บูลลาร์ด ประธานเฟดสาขาเซนต์หลุยส์กล่าวในวันพฤหัสบดีว่า การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างต่อเนื่องจะช่วยให้อัตราเงินเฟ้อชะลอตัวลงต่อไป ถึงแม้เศรษฐกิจเติบโตอย่างต่อเนื่อง
ราคาน้ำมันดิบสหรัฐส่งมอบเดือนมี.ค.รูดลง 2.15 ดอลลาร์ หรือ 2.7% มาปิดตลาดที่ 76.34 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนราคาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนเม.ย.ที่ตลาดกรุงลอนดอนดิ่งลง 2.14 ดอลลาร์ หรือ 2.5% มาปิดตลาดที่ 83.00 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ทั้งนี้ ราคาน้ำมันดิบสหรัฐปิดตลาดสัปดาห์นี้ด้วยการรูดลง 4.2% จากสัปดาห์ที่แล้ว ส่วนเบรนท์ปิดตลาดสัปดาห์นี้ด้วยการดิ่งลง 3.9% จากสัปดาห์ที่แล้ว
ราคาน้ำมันได้รับแรงกดดันจากสัญญาณบ่งชี้ว่า อุปทานน้ำมันจะอยู่ในระดับสูง โดยหนังสือพิมพ์เวโดโมสติรายงานในวันศุกร์ว่า บริษัทผู้ผลิตน้ำมันของรัสเซียคาดว่าจะยังคงปริมาณการส่งออกน้ำมันดิบไว้ที่ระดับปัจจุบันต่อไป ถึงแม้รัฐบาลรัสเซียวางแผนจะปรับลดปริมาณการผลิตน้ำมันลงในเดือนมี.ค.
ค่าแครกสเปรดของน้ำมัน heating oil (หรือส่วนต่างระหว่างราคาน้ำมัน heating oil กับราคาน้ำมันดิบ) ดิ่งลง 5% ในวันศุกร์ ในขณะที่ภาวะอากาศอบอุ่นส่งผลลบต่ออุปสงค์ในน้ำมัน heating oil ในช่วงกลางเดือนก.พ. ทั้งนี้ บริษัทเบเกอร์ ฮิวจ์สรายงานในวันศุกร์ว่า จำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันและก๊าซธรรมชาติในสหรัฐลดลง 1 แท่น สู่ 760 แท่นในช่วงสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 17 ก.พ. แต่จำนวนแท่นขุดเจาะยังคงพุ่งขึ้นมาแล้ว 115 แท่น หรือ 18% จากสัปดาห์เดียวกันในปีก่อน
สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) รายงานในวันพุธว่า สต็อกน้ำมันดิบในคลังสหรัฐพุ่งขึ้น 16.3 ล้านบาร์เรล สู่ 471.4 ล้านบาร์เรลในช่วงสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 10 ก.พ. โดยระดับ 471.4 ล้านบาร์เรลนี้ถือเป็นจุดสูงสุดนับตั้งแต่เดือนมิ.ย. 2021 ทั้งนี้ นายบ็อบ ยอว์เกอร์ ผู้อำนวยการฝ่ายสัญญาล่วงหน้าพลังงานของบริษัทมิสุโฮกล่าวว่า "เนื่องจากสต็อกน้ำมันในคลังอยู่ที่จุดสูงสุดในรอบ 19 เดือน ดังนั้นโรงกลั่นน้ำมันจึงสามารถยืดช่วงเวลาสำหรับการซ่อมบำรุงออกไปได้นานเท่าที่ต้องการ"--จบ--
Eikon source text
(รอยเตอร์ โดย จิตร โพธิ์แก้ว แปลและเรียบเรียง)
((jit.phokaew@thomsonreuters.com; โทร 08-7689-6043;
นิวยอร์ค--9 ก.พ.--รอยเตอร์
ราคาน้ำมันดิบในตลาดล่วงหน้า NYMEX พุ่งขึ้นในวันพุธเป็นวันที่ 3 ติดต่อกัน ในขณะที่นักลงทุนต้องการซื้อสินทรัพย์เสี่ยง หลังจากถ้อยแถลงของนายเจอโรม พาวเวลล์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันอังคารช่วยให้นักลงทุนลดความกังวลที่มีต่อแนวโน้มการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในอนาคต ทั้งนี้ นักลงทุนมองว่านายพาวเวลล์ไม่ได้ส่งสัญญาณแบบสายเหยี่ยวมากเท่าที่คาดในวันอังคาร ดังนั้นนักลงทุนจึงคาดหวังว่าเฟดอาจจะไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างแข็งกร้าวมากนัก และปัจจัยนี้อาจจะช่วยให้เศรษฐกิจสหรัฐสามารถหลีกเลี่ยงจากภาวะถดถอยได้ ซึ่งจะส่งผลดีต่ออุปสงค์น้ำมัน นอกจากนี้ ราคาน้ำมันยังได้รับแรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่า อุปสงค์เชื้อเพลิงในจีนจะพุ่งสูงขึ้น หลังจากจีนยกเลิกมาตรการควบคุมโรคโควิด-19 ด้วย
ราคาน้ำมันดิบสหรัฐส่งมอบเดือนมี.ค.ทะยานขึ้น 1.33 ดอลลาร์ หรือ 1.7% มาปิดตลาดที่ 78.47 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนราคาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนเม.ย.ที่ตลาดกรุงลอนดอนพุ่งขึ้น 1.40 ดอลลาร์ หรือ 1.7% มาปิดตลาดที่ 85.09 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
หลังจากกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) ตัดสินใจคงนโยบายจำกัดปริมาณการผลิตน้ำมันไว้ตามเดิมในการประชุมสัปดาห์ที่แล้ว นายอาฟชิน จาวาน ผู้แทนของอิหร่านประจำกลุ่มโอเปกก็กล่าวในวันพุธว่า กลุ่มโอเปกมีแนวโน้มที่จะคงนโยบายจำกัดการผลิตน้ำมันไว้ตามเดิมในการประชุมครั้งถัดไปด้วย นอกจากนี้ เขายังกล่าวเสริมว่า เขาคาดว่าราคาน้ำมันจะพุ่งขึ้นสู่ระดับราว 100 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลในช่วงครึ่งหลังของปีนี้
เหตุแผ่นดินไหวในตุรกีและซีเรียในวันจันทร์ส่งผลให้มีการระงับการส่งออกน้ำมันของอิรักและอาเซอร์ไบจันออกจากท่าเรือในเมืองซีย์ฮานของตุรกี โดยบริษัทบีพี อาเซอร์ไบจันได้ประกาศภาวะเหตุสุดวิสัยต่อการขนส่งน้ำมันดิบอาเซอร์ไบจันออกจากท่าเรือเมืองซีย์ฮาน อย่างไรก็ดี อิรักเริ่มจัดส่งน้ำมันทางท่อส่งไปยังเมืองซีย์ฮานอีกครั้งในวันอังคาร
ราคาน้ำมันปรับขึ้นเพียงในวงจำกัดในวันพุธ ในขณะที่สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) รายงานในวันพุธว่า ปริมาณการผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐพุ่งขึ้น 100,000 บาร์เรล สู่ 12.3 ล้านบาร์เรลต่อวันในช่วงสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 3 ก.พ. ซึ่งถือเป็นจุดสูงสุดนับตั้งแต่เดือนเม.ย. 2020 ทางด้านสต็อกน้ำมันดิบในคลังสหรัฐทะยานขึ้น 2.4 ล้านบาร์เรล สู่ 455.1 ล้านบาร์เรลในช่วงสัปดาห์เดียวกัน ซึ่งถือเป็นจุดสูงสุดนับตั้งแต่เดือนมิ.ย. 2021 ทั้งนี้ สต็อกน้ำมันเบนซินในคลังสหรัฐพุ่งขึ้น 5 ล้านบาร์เรล สู่ 239.6 ล้านบาร์เรล, สต็อกน้ำมัน Distillate ในคลังสหรัฐ ซึ่งครอบคลุมน้ำมันดีเซลและน้ำมัน heating oil ทะยานขึ้น 2.9 ล้านบาร์เรล สู่ 120.5 ล้านบาร์เรล ซึ่งถือเป็นจุดสูงสุดในรอบ 1 ปี ทางด้านอัตราการใช้กำลังการกลั่นน้ำมันพุ่งขึ้น 2.2% สู่ 87.9%--จบ--
Eikon source text
(รอยเตอร์ โดย จิตร โพธิ์แก้ว แปลและเรียบเรียง)
((jit.phokaew@thomsonreuters.com; โทร 08-7689-6043;
ราคาน้ำมันร่วงลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบปีนี้ในวันพุธ โดยหักล้างช่วงบวกที่ทำไว้ไปจนหมดนับตั้งแต่การบุกโจมตียูเครนของรัสเซียได้ซ้ำเติมวิกฤติอุปทานพลังงานโลกที่เลวร้ายที่สุดในรอบหลายทศวรรษ
ราคาน้ำมันดิบสหรัฐส่งมอบเดือนม.ค.ปิดดิ่งลง 2.24 ดอลลาร์ มาที่ 72.01 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนราคาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนม.ค.ที่ตลาดกรุงลอนดอนปิดดิ่งลง 2.18 ดอลลาร์ หรือ 2.8% มาที่ 77.17 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล โดยราคาน้ำมันร่วงลงอย่างต่อเนื่องในช่วงเดือนท้ายๆของปี ขณะที่นักเศรษฐศาสตร์เตรียมตัวรับเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลงทั่วโลก ซึ่งมีสาเหตุส่วนหนึ่งมาจากต้นทุนพลังงานสูง
ราคาน้ำมันร่วงลงเนื่องจากการเพิ่มขึ้นมากเกินคาดของสต็อกน้ำมันสหรัฐด้วย โดยสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของสหรัฐรายงานว่า สต็อกน้ำมันกลั่นเพิ่มขึ้น 6.2 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่คาดไว้ว่าจะเพิ่มขึ้น 2.2 ล้านบาร์เรล ส่วนสต็อกน้ำมันเบนซินเพิ่มขึ้น 5.3 ล้านบาร์เรล เทียบกับที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 2.7 ล้านบาร์เรล และสต็อกน้ำมันดิบพุ่งขึ้น 5.2 ล้านบาร์เรล
ประเทศในกลุ่มจี-7 ได้เริ่มดำเนินนโยบายเพดานราคาเพื่อจำกัดการส่งออกของรัสเซียแล้ว ซึ่งอาจจะทำให้รัสเซียลดการผลิตในปีหน้า
คำเตือนจากธนาคารขนาดใหญ่ของสหรัฐเกี่ยวกับภาวะถดถอยที่อาจจะเกิดขึ้นในปีหน้ากดดันราคาน้ำมันด้วย โดยนายเดนนิส คิสเลอร์ รองประธานอาวุโสจากบีโอเค ไฟแนนเชียล กล่าวว่า สถานะซื้อสุทธิของกองทุนอยู่ที่ระดับต่ำสุดในรอบ 6 ปี ขณะที่กองทุนบางส่วนส่งคำสั่งขายในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา--จบ--
(รอยเตอร์ โดย เสาวณีย์ เอกปัญญาชัย แปลและเรียบเรียง)
นิวยอร์ค--11 ก.ค.--รอยเตอร์
ราคาน้ำมันดิบในตลาดล่วงหน้า NYMEX พุ่งขึ้น 2% ในวันศุกร์ หลังจากแกว่งตัวผันผวนในระหว่างวัน แต่ราคาน้ำมันดิบยังคงปิดตลาดสัปดาห์นี้ด้วยการดิ่งลงจากสัปดาห์ที่แล้ว ในขณะที่นักลงทุนกังวลว่าภาวะเศรษฐกิจถดถอยอาจจะกดดันอุปสงค์น้ำมันให้ดิ่งลงในอนาคต ถึงแม้อุปทานเชื้อเพลิงทั่วโลกยังคงอยู่ในภาวะตึงตัว ทั้งนี้ ธนาคารกลางทั่วโลกกำลังปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในช่วงนี้เพื่อแก้ไขปัญหาภาวะเงินเฟ้อ และปัจจัยดังกล่าวก็ทำให้นักลงทุนกังวลว่า การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอาจจะสร้างความเสียหายต่อเศรษฐกิจและต่ออุปสงค์น้ำมัน นอกจากนี้ นักลงทุนก็กังวลว่าจีนอาจจะประกาศใช้มาตรการล็อกดาวน์รอบใหม่ หลังจากนครเซี่ยงไฮ้ดำเนินการตรวจหาเชื้อไวรัสโคโรนาในประชากรจำนวนมากในสัปดาห์นี้
ราคาน้ำมันดิบสหรัฐส่งมอบเดือนส.ค.ทะยานขึ้น 2.06 ดอลลาร์ หรือ 2% มาปิดตลาดที่ 104.79 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนราคาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนก.ย.ที่ตลาดกรุงลอนดอนพุ่งขึ้น 2.37 ดอลลาร์ หรือ 2.3% มาปิดตลาดที่ 107.02 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลในวันศุกร์ โดยทั้งราคาน้ำมันดิบสหรัฐและเบรนท์ต่างก็ดิ่งลงในช่วงแรกก่อนจะพุ่งขึ้นในช่วงต่อมา ทั้งนี้ ราคาน้ำมันดิบสหรัฐและเบรนท์เพิ่งปิดตลาดเดือนมิ.ย.ในแดนลบ ซึ่งถือเป็นการปิดตลาดรายเดือนในแดนลบเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนพ.ย. 2021 นอกจากนี้ ราคาน้ำมันดิบสหรัฐก็ปิดตลาดสัปดาห์นี้ด้วยการดิ่งลง 3.4% จากสัปดาห์ที่แล้ว ส่วนเบรนท์ปิดตลาดสัปดาห์นี้ด้วยการรูดลงราว 4.1% จากสัปดาห์ที่แล้ว
กระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานในวันศุกร์ว่า การจ้างงานนอกภาคเกษตรในสหรัฐพุ่งขึ้น 372,000 ตำแหน่งในเดือนมิ.ย. ซึ่งสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักเศรษฐศาสตร์ในโพลล์รอยเตอร์ที่ 268,000 ตำแหน่ง ส่วนอัตราการว่างงานทรงตัวที่ 3.6% ในเดือนมิ.ย. ทางด้านรายได้เฉลี่ยต่อชั่วโมงปรับขึ้น 0.3% ในเดือนมิ.ย. หลังจากปรับขึ้น 0.4% ในเดือนพ.ค. โดยรายงานดังกล่าวช่วยสนับสนุนการคาดการณ์ของนักลงทุนที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% ในการประชุมกำหนดนโยบายในวันที่ 26-27 ก.ค. ทั้งนี้ นายฟิล ฟลินน์ นักวิเคราะห์ของบริษัทไพรซ์ ฟิวเจอร์ส กรุ๊ปกล่าวว่า "นักลงทุนในตลาดน้ำมันมองตัวเลขจ้างงานว่าเป็นดาบสองคม เพราะตัวเลขจ้างงานอาจส่งผลบวกต่อราคาน้ำมันในแง่ของอุปสงค์น้ำมัน แต่ตัวเลขจ้างงานก็อาจส่งผลลบต่อราคาน้ำมันได้เช่นกัน เพราะนักลงทุนอาจกังวลว่า ตัวเลขการจ้างงานที่แข็งแกร่งจะกระตุ้นให้เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างแข็งกร้าวมากยิ่งขึ้น"
บริษัทเบเกอร์ ฮิวจ์สรายงานในวันศุกร์ว่า จำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันที่ใช้งานในสหรัฐปรับขึ้น 2 แท่น สู่ 597 แท่นในช่วงสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 8 ก.ค. ซึ่งถือเป็นจุดสูงสุดนับตั้งแต่เดือนมี.ค. 2020
นายสตีเฟน เบรนน็อค จากบริษัท PVM กล่าวว่า "ความกังวลทางเศรษฐกิจกดดันราคาน้ำมันให้ดิ่งลงในสัปดาห์นี้ แต่ตลาดน้ำมันยังคงส่งสัญญาณในทางบวก เพราะว่าภาวะอุปทานน้ำมันตึงตัวมีแนวโน้มที่จะทวีความรุนแรงมากยิ่งขึ้นไปอีกในอนาคต แทนที่จะผ่อนคลายลง" ทั้งนี้ ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูตินของรัสเซียกล่าวเตือนว่า ถ้าหากชาติตะวันตกยังคงดำเนินมาตรการคว่ำบาตรรัฐบาลรัสเซียต่อไป การกระทำดังกล่าวก็อาจจะส่งผลให้ราคาพลังงานพุ่งขึ้นจนสร้างความเสียหายเป็นอย่างมากแก่ผู้บริโภคทั่วโลก--จบ--
(รอยเตอร์ โดย จิตร โพธิ์แก้ว แปลและเรียบเรียง)
((jit.phokaew@thomsonreuters.com; โทร 08-7689-6043;
นิวยอร์ค--27 มิ.ย.--รอยเตอร์
ราคาน้ำมันดิบในตลาดล่วงหน้า NYMEX พุ่งขึ้นอย่างแข็งแกร่งในวันศุกร์ โดยได้รับแรงหนุนจากอุปทานน้ำมันที่ตึงตัว อย่างไรก็ดี ราคาน้ำมันปิดตลาดสัปดาห์นี้ในแดนลบเป็นสัปดาห์ที่ 2 ติดต่อกัน ในขณะที่นักลงทุนกังวลว่าการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอาจจะส่งผลให้เศรษฐกิจโลกเข้าสู่ภาวะถดถอย ทั้งนี้ ราคาน้ำมันดิบได้รับแรงหนุนในช่วงที่ผ่านมาจากเหตุการณ์ไม่สงบในลิเบีย ซึ่งส่งผลให้ปริมาณการผลิตน้ำมันในลิเบียดิ่งลงอย่างรุนแรง โดยรัฐมนตรีน้ำมันของลิเบียเพิ่งกล่าวในวันพฤหัสบดีว่า นายมุสตาฟา ซานัลลา ประธานบริษัทเนชั่นแนล ออยล์ คอร์ปอเรชันของลิเบียไม่ยอมเปิดเผยข้อมูลด้านการผลิตน้ำมันแก่เขา และข่าวนี้ทำให้มีการตั้งข้อสงสัยต่อความถูกต้องของตัวเลขปริมาณการผลิตที่ได้รับการรายงานออกมาในสัปดาห์ที่แล้ว
ราคาน้ำมันดิบสหรัฐส่งมอบเดือนส.ค.ทะยานขึ้น 3.35 ดอลลาร์ หรือ 3.2% มาปิดตลาดที่ 107.62 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนราคาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนส.ค.ที่ตลาดกรุงลอนดอนพุ่งขึ้น 3.07 ดอลลาร์ หรือ 2.8% มาปิดตลาดที่ 113.12 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ราคาน้ำมันดิบเคยได้รับแรงกดดันในช่วงก่อนหน้านี้จากการที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณในช่วงก่อนหน้านี้ว่า เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างแข็งกร้าว อย่างไรก็ดี ตัวเลขเศรษฐกิจที่อ่อนแอในสหรัฐส่งผลให้นักลงทุนปรับลดการคาดการณ์ดังกล่าว ทั้งนี้ นายเจอโรม พาวเวลล์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เพิ่งกล่าวต่อคณะกรรมาธิการบริการทางการเงิน ประจำสภาผู้แทนราษฎรในวันพฤหัสบดีว่า พันธกิจของเฟดต่อการควบคุมอัตราเงินเฟ้อเป็นแบบ "ไม่มีเงื่อนไข" โดยถ้อยแถลงนี้ของเขาทำให้นักลงทุนกังวลว่า เฟดอาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างแข็งกร้าวยิ่งขึ้น อย่างไรก็ดี มหาวิทยาลัยมิชิแกนรายงานในวันศุกร์ว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐดิ่งลงจาก 58 ในเดือนพ.ค. สู่สถิติต่ำสุดที่ 50 ในเดือนมิ.ย. แต่ดัชนีการคาดการณ์เงินเฟ้อสำหรับช่วง 5 ปีข้างหน้าร่วงลงจาก 3.3% ในช่วงกลางเดือนมิ.ย. สู่ 3.1%
นายสตีเฟน เบรนน็อค จากบริษัท PVM กล่าวว่า ความกังวลเรื่องภาวะเศรษฐกิจถดถอยครอบงำตลาดในช่วงนี้ อย่างไรก็ดี "นักลงทุนยังคงกังวลว่า ตลาดน้ำมันจะเผชิญกับภาวะอุปสงค์สูง แต่อุปทานน้ำมันตึงตัวในช่วงฤดูร้อน และปัจจัยนี้ช่วยจำกัดช่วงขาลงของราคาน้ำมัน" ทั้งนี้ กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมันและชาติพันธมิตร (โอเปกพลัส) จะจัดการประชุมในวันที่ 30 มิ.ย. และมีแนวโน้มว่ากลุ่มโอเปกพลัสจะยังคงทำตามแผนการเดิมในการปรับเพิ่มปริมาณการผลิตน้ำมันขึ้นเพียงเล็กน้อยในเดือนก.ค.และส.ค.
บริษัทเบเกอร์ ฮิวจ์สรายงานในวันศุกร์ว่า จำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันและก๊าซที่ใช้งานในสหรัฐพุ่งขึ้น 13 แท่น สู่ 753 แท่นในช่วงสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 24 มิ.ย. ซึ่งถือเป็นจุดสูงสุดนับตั้งแต่เดือนมี.ค. 2020 โดยแท่นขุดเจาะน้ำมันและก๊าซในสหรัฐทะยานขึ้นในเดือนมิ.ย.เป็นเดือนที่ 23 ติดต่อกัน ในขณะที่ราคาน้ำมันดิบที่ระดับสูงและแรงกระตุ้นจากรัฐบาลสหรัฐส่งผลให้บริษัทขุดเจาะน้ำมันกลับมาเปิดใช้งานแท่นขุดเจาะต่าง ๆ อีกครั้ง ทั้งนี้ สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) จะเลื่อนเวลาในการรายงานตัวเลขสต็อกน้ำมันในคลังสหรัฐประจำสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 17 มิ.ย.ไปเป็นสัปดาห์หน้า เนื่องจากมีปัญหาทางเทคนิค--จบ--
(รอยเตอร์ โดย จิตร โพธิ์แก้ว แปลและเรียบเรียง)
((jit.phokaew@thomsonreuters.com; โทร 08-7689-6043;
ไวท์เลเบล
Data API
ปลั๊กอินเว็บไซต์
เครื่องมือออกแบบโปสเตอร์
โครงการพันธมิตร
ความเสี่ยงของการสูญเสียในการซื้อขายสินทรัพย์ทางการเงิน เช่น หุ้น FX สินค้าโภคภัณฑ์ ฟิวเจอร์ส พันธบัตร ETFs หรือเงินดิจิทัลอาจมีมาก คุณอาจสูญเสียเงินทุนทั้งหมดที่คุณฝากไว้กับโบรกเกอร์ของคุณ ดังนั้น คุณควรพิจารณาอย่างรอบคอบว่าการซื้อขายดังกล่าวเหมาะสมกับคุณหรือไม่ในสถานการณ์และทรัพยากรทางการเงินของคุณ
ไม่ควรตัดสินใจลงทุนโดยไม่ได้ดำเนินการตรวจสอบสถานะอย่างละเอียดถี่ถ้วนด้วยตัวเองหรือปรึกษากับที่ปรึกษาทางการเงินของคุณ เนื้อหาเว็บของเราอาจไม่เหมาะกับคุณเนื่องจากเราไม่ทราบเงื่อนไขทางการเงินและความต้องการในการลงทุนของคุณ ข้อมูลทางการเงินของเราอาจมีความล่าช้าหรือมีความไม่ถูกต้อง ดังนั้นคุณควรรับผิดชอบอย่างเต็มที่ต่อการตัดสินใจซื้อขายและการลงทุนของคุณ บริษัทจะไม่รับผิดชอบต่อการสูญเสียเงินทุนของคุณ
หากไม่ได้รับอนุญาตจากเว็บไซต์ คุณจะไม่สามารถคัดลอกกราฟิก ข้อความ หรือเครื่องหมายการค้าของเว็บไซต์ได้ สิทธิ์ในทรัพย์สินทางปัญญาในเนื้อหาหรือข้อมูลที่รวมอยู่ในเว็บไซต์นี้เป็นของผู้ให้บริการและผู้ค้าแลกเปลี่ยน