ตลาด
ข่าวสาร
การวิเคราะห์
ผู้ใช้
24x7
ปฏิทินเศรษฐกิจ
แหล่งเรียนรู้
ข้อมูล
- ชื่อ
- ค่าล่าสุด
- ครั้งก่อน
ค:--
ค: --
ค: --
ค:--
ค: --
ค: --
ค:--
ค: --
ค: --
ค:--
ค: --
ค: --
ค:--
ค: --
ค: --
ค:--
ค: --
ค: --
ค:--
ค: --
ค: --
ค:--
ค: --
ค: --
ค:--
ค: --
ค: --
ค:--
ค: --
ค: --
ค:--
ค: --
ค: --
ค:--
ค: --
ค: --
ค:--
ค: --
ค:--
ค: --
ค:--
ค: --
ค: --
ค:--
ค: --
ค:--
ค: --
ค: --
ค:--
ค: --
ค:--
ค: --
ค: --
ค:--
ค: --
ค: --
ค:--
ค: --
ค: --
ค:--
ค: --
ค:--
ค: --
ค: --
ค:--
ค: --
ค: --
ค:--
ค: --
ค: --
ค:--
ค: --
ค: --
ค:--
ค: --
ค: --
ค:--
ค: --
ค: --
ค:--
ค: --
ค: --
ค:--
ค: --
ค: --
--
ค: --
ค: --
--
ค: --
ค: --
--
ค: --
ค: --
--
ค: --
ค: --
--
ค: --
ค: --
--
ค: --
ค: --
--
ค: --
ค: --
--
ค: --
ค: --
--
ค: --
ค: --
--
ค: --
ค: --
--
ค: --
ค: --
--
ค: --
ค: --
--
ค: --
ค: --
--
ค: --
ค: --
--
ค: --
ค: --
--
ค: --
ค: --
--
ค: --
ค: --
--
ค: --
ค: --
--
ค: --
ค: --
--
ค: --
ค: --
--
ค: --
ค: --
--
ค: --
ค: --
--
ค: --
ค: --
--
ค: --
ค: --
--
ค: --
ค: --
--
ค: --
ค: --
--
ค: --
ค: --
--
ค: --
ค: --
--
ค: --
ค: --
--
ค: --
ค: --
ไม่มีข้อมูลที่ตรงกัน
ทัศนคติล่าสุด
ทัศนคติล่าสุด
หัวข้อยอดนิยม
เพื่อเรียนรู้การเปลี่ยนแปลงของตลาดอย่างรวดเร็วและติดตามตลาดโฟกัสใน 15 นาที
ในโลกของมนุษยชาติ จะไม่มีคำกล่าวใด ๆ ที่ไม่มีจุดยืนใด ๆ หรือคำพูดใด ๆ ที่ไม่มีจุดประสงค์ใด ๆ
อัตราเงินเฟ้อ อัตราแลกเปลี่ยน และเศรษฐกิจเป็นตัวกำหนดการตัดสินใจเชิงนโยบายของธนาคารกลาง ทัศนคติและคำพูดของเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางยังมีอิทธิพลต่อการกระทำของเทรดเดอร์ในตลาดอีกด้วย
เงินทำให้โลกหมุนไป และสกุลเงินเป็นสินค้าถาวร ตลาดฟอเร็กซ์เต็มไปด้วยความประหลาดใจและความคาดหวัง
คอลัมนิสต์ยอดนิยม
เพลิดเพลินกับกิจกรรมที่น่าตื่นเต้น ที่นี่ที่ FastBull
ข่าวด่วนล่าสุดและเหตุการณ์ทางการเงินทั่วโลก
ฉันมีประสบการณ์ 5 ปีในการวิเคราะห์ทางการเงิน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านการพัฒนามหภาคและการตัดสินแนวโน้มระยะกลางและระยะยาว ความสนใจของฉันอยู่ที่การพัฒนาของตะวันออกกลาง ตลาดเกิดใหม่ ถ่านหิน ข้าวสาลี และสินค้าเกษตรอื่นๆ
7 ปีของตลาดหุ้น การแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ โลหะมีค่า และประสบการณ์การซื้อขายและการวิเคราะห์อื่น ๆ โดยอาศัยปัจจัยพื้นฐาน การสนับสนุนทางเทคนิค มีอคติต่อตรรกะธุรกรรมจากบนลงล่าง โดยเน้นที่วัฏจักรมหภาคและการควบคุมความเสี่ยง การคาดการณ์เชิงทฤษฎีอุปสงค์และอุปทานอเนกประสงค์ การเปลี่ยนแปลงของราคา สร้างสมดุลระหว่างผลกระทบของธุรกรรม การกระจายชิปและอารมณ์ตลาด และคงที่
อัปเดตล่าสุด
สร้างทัศนคติการลงทุนที่ดี
วอร์เรน บัฟเฟตต์ได้รับเกียรติให้เป็นหนึ่งในนักลงทุนที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ ปรัชญาการลงทุนของเขาประกอบด้วยการสร้างกรอบความคิดระยะยาว ขจัดญาณรบกวนของตลาด ไม่เก็งกำไร และเน้นย้ำว่าการลงทุนต้องมีมีจิตใจที่มั่นคงและเป้าหมายที่ชัดเจน
คำเตือนเกี่ยวกับความเสี่ยงในการลงทุนในตลาดหุ้นฮ่องกง
แม้ว่าระบบกฎหมายและกรอบการกำกับดูแลในฮ่องกงจะค่อนข้างสมบูรณ์ แต่ตลาดหุ้นยังคงเผชิญกับความเสี่ยงและความท้าทายพิเศษหลายประการ เช่น ความสัมพันธ์ระหว่าง HKD และ USD นักลงทุนต่างชาติอาจเผชิญกับความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยน ความผันผวนของนโยบายและสถานการณ์ทางเศรษฐกิจของจีนแผ่นดินใหญ่อาจส่งผลกระทบต่อตลาดหุ้นฮ่องกงด้วย
โครงสร้างต้นทุนและภาษีเมื่อลงทุนในหุ้นฮ่องกง
ต้นทุนการซื้อขายในตลาดหุ้นฮ่องกง ได้แก่ ค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรมหุ้น ค่าอากรแสตมป์ ค่าธรรมเนียมการชำระบัญชี ฯลฯ สำหรับนักลงทุนต่างชาติอาจมีค่าธรรมเนียมการแปลงสกุลเงินเพิ่มเติมเป็นดอลลาร์ฮ่องกงและภาษีอื่น ๆ ตามข้อบังคับท้องถิ่น
การวิเคราะห์อุตสาหกรรมฮ่องกง:อุตสาหกรรมสินค้าอุปโภคบริโภคที่ไม่จำเป็น
อุตสาหกรรมสินค้าอุปโภคบริโภคที่ไม่จำเป็นของฮ่องกง ได้แก่ รถยนต์ การศึกษา การท่องเที่ยว การจัดเลี้ยง เครื่องแต่งกาย และภาคส่วนอื่นๆ อีกมากมาย จากบริษัทจดทะเบียน 643 แห่งนั้น 35% เป็นบริษัทในจีนแผ่นดินใหญ่และคิดเป็น 65% ของมูลค่าตลาดทั้งหมด ดังนั้นอุตสาหกรรมนี้จึงได้รับอิทธิพลอย่างลึกซึ้งจากเศรษฐกิจจีน
ฮ่องกง,ประเทศจีน
นครโฮจิมินห์, เวียดนาม
ดูไบ, UAE
ลากอส, ไนจีเรีย
ไคโร, อียิปต์
ไวท์เลเบล
Data API
ปลั๊กอินเว็บไซต์
โครงการพันธมิตร
ดูผลการค้นหาทั้งหมด
ไม่มีข้อมูล
ไม่ได้ล็อกอิน
เข้าสู่ระบบเพื่อเข้าถึงฟังก์ชั่นเพิ่มเติม
สมาชิก FastBull
ยังไม่ได้เปิด
สมัคร
เข้าสู่ระบบ
ลงทะเบียน
ฮ่องกง,ประเทศจีน
นครโฮจิมินห์, เวียดนาม
ดูไบ, UAE
ลากอส, ไนจีเรีย
ไคโร, อียิปต์
ไวท์เลเบล
Data API
ปลั๊กอินเว็บไซต์
โครงการพันธมิตร
นิวยอร์ค--29 ธ.ค.--รอยเตอร์
กองทุนอาร์ค อินโนเวชันของนางแคธี วูดเคยมีขนาดพุ่งขึ้นกว่า 2 เท่าในช่วงที่เกิดวิกฤติโรคโควิด-19 แต่กองทุนดังกล่าวมีแนวโน้มที่จะปิดตลาดปีนี้ด้วยการครองตำแหน่งเกือบต่ำสุดในบรรดากองทุนรวมทั้งหมดในสหรัฐ หลังจากการพุ่งขึ้นของอัตราเงินเฟ้อและการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างแข็งกร้าวส่งผลลบต่อหุ้นกลุ่มเติบโตสูง ทั้งนี้ กองทุนอาร์ค อินโนเวชันดิ่งลงมาแล้วราว 67% จากช่วงต้นปีนี้ ในขณะที่ดัชนี S&P 500 ของตลาดหุ้นสหรัฐรูดลงเพียง 20% จากช่วงต้นปีนี้ โดยการดิ่งลง 67%ของกองทุนอาร์ค อินโนเวชันส่งผลให้กองทุนนี้ดิ่งลงมากที่สุดในบรรดากองทุนหุ้นเติบโตขนาดกลาง 537 แห่งในสหรัฐ และส่งผลให้กองทุนนี้ครองตำแหน่งเกือบต่ำสุดในบรรดากองทุนหุ้นทั้งหมดในสหรัฐที่บริษัทมอร์นิงสตาร์ติดตามข้อมูลอยู่
ดัชนี S&P 500 อาจจะปิดตลาดปีนี้ด้วยการดิ่งลงรายปีครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่ปี 2008 และปัจจัยดังกล่าวส่งผลให้กองทุนส่วนใหญ่ขาดทุนในปี 2022 โดยนายไบรอัน จาค็อบเสน นักยุทธศาสตร์การลงทุนของบริษัทออลสปริง โกลบัล อินเวสท์เมนท์กล่าวว่า "ผู้จัดการกองทุนคาดการณ์ผิดพลาดในเรื่องภาวะเงินเฟ้อในปีนี้ และธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เองก็คาดการณ์ผิดพลาดในเรื่องภาวะเงินเฟ้อด้วยเช่นกัน" ทั้งนี้ เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยมาแล้ว 4.25% นับตั้งแต่เดือนมี.ค.เพื่อพยายามควบคุมภาวะเงินเฟ้อ และปัจจัยดังกล่าวก็ส่งผลลบเป็นอย่างมากต่อหุ้นกลุ่มเติบโตสูง เพราะว่าอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นส่งผลให้หุ้นเติบโตมีความน่าดึงดูดน้อยลง เนื่องจากมูลค่าของหุ้นเติบโตมักจะขึ้นอยู่กับผลกำไรในอนาคต นอกจากนี้ อัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นก็ส่งผลให้พันธบัตรรัฐบาลสหรัฐและตราสารหนี้อื่น ๆ มีความน่าดึงดูดมากยิ่งขึ้นด้วย ซึ่งส่งผลลบต่อความต้องการลงทุนในหุ้น ทางด้านกองทุนของนางวูดเน้นการลงทุนในหุ้นเติบโต
ข้อมูลของบริษัทมอร์นิงสตาร์แสดงให้เห็นว่า กองทุนของนางวูดติดอันดับที่ 3,544 ในบรรดากองทุนรวมหุ้นสหรัฐที่ลงทุนเชิงรุกทั้งหมด 3,552 แห่ง ส่วนกองทุนที่ติดอันดับต่ำสุดในกลุ่มนี้คือกองทุนโวยา รัสเซีย ฟันด์ที่ดิ่งลง 92% จากช่วงต้นปีนี้ ทั้งนี้ ในบรรดาหุ้น 10 อันดับแรกที่กองทุนอาร์ค อินโนเวชันถือครองไว้มากที่สุดนั้น หุ้นทั้ง 10 ตัวนี้ต่างก็ดิ่งลงมาแล้วไม่ต่ำกว่า 30% จากช่วงต้นปีนี้ ซึ่งรวมถึงหุ้นบริษัทซูม วิดีโอ คอมมูนิเคชันส์, หุ้นเทสลา และหุ้นบล็อค อิงค์ (ซึ่งมีชื่อเดิมว่า "สแควร์") ที่ต่างก็รูดลงมาแล้วกว่า 60% จากช่วงต้นปีนี้ ในขณะที่หุ้นบริษัทเทลาด็อค เฮลธ์และหุ้นบริษัทโรคูต่างก็ดิ่งลงมาแล้วกว่า 70% จากช่วงต้นปีนี้
นางวูดคาดการณ์ผิดพลาดในเรื่องภาวะเงินเฟ้อในช่วงที่ผ่านมา โดยเธอเคยกล่าวเมื่อ 1 ปีก่อนว่า ภาวะเงินฝืดถือเป็นความเสี่ยงที่แท้จริงสำหรับตลาดในช่วงหนึ่งปีข้างหน้า และเธอได้กล่าวในเดือนก.ย.ปีนี้ว่า การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดถือเป็นเรื่องที่ผิดพลาด อย่างไรก็ดี ดัชนีราคาผู้บริโภคของสหรัฐได้พุ่งขึ้นในอัตราที่สูงที่สุดในรอบ 40 ปีในบางเดือนในปี 2022 ทั้งนี้ นางวูดเคยมีชื่อเสียงโด่งดังในปี 2020 เพราะหุ้นบริษัทซูมและบริษัทเทลาด็อคในพอร์ตลงทุนของเธอมีราคาพุ่งขึ้นสูงมาก โดยได้รับแรงหนุนจากมาตรการล็อกดาวน์ในช่วงนั้น โดยสถานการณ์ในตอนนั้นส่งผลให้กองทุนของเธอมีสินทรัพย์ภายใต้การบริหารมากถึง 2.76 หมื่นล้านดอลลาร์ อย่างไรก็ดี กองทุนดังกล่าวมีขนาดสินทรัพย์ภายใต้การบริหารต่ำกว่า 6.5 พันล้านดอลลาร์ในปัจจุบัน
กองทุนอื่น ๆ ที่ลงทุนเป็นเงินจำนวนมากในหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีต่างก็ดิ่งลงอย่างรุนแรงเช่นกันในปี 2022 โดยกองทุน Morgan Stanley Insight I ซึ่งมีขนาด 1.4 พันล้านดอลลาร์ และลงทุนเป็นเงินจำนวนมากในบริษัทสโนว์เฟลคที่ทำธุรกิจคลาวด์ ดิ่งลงมาแล้ว 61.3% จากช่วงต้นปีนี้ และถือเป็นหนึ่งในกองทุนขนาดใหญ่ที่ดิ่งลงมากที่สุดในปีนี้ ส่วนกองทุนเซเวนเบอร์เกน จีเนีย ซึ่งมีขนาด 59 ล้านดอลลาร์ และลงทุนเป็นเงินจำนวนมากในบริษัทเทสลา รูดลงมาแล้ว 59% จากช่วงต้นปีนี้ และถือเป็นหนึ่งในกองทุนกระจายความเสี่ยงที่ดิ่งลงมากที่สุดในปีนี้ ทั้งนี้ ในบรรดากองทุนรวมหุ้นที่มีการบริหารเชิงรุกและมีผลประกอบการดีที่สุด 15 อันดับแรกในปีนี้นั้น กองทุนส่วนใหญ่ในกลุ่มนี้เน้นลงทุนในหุ้นกลุ่มพลังงานหรือสินค้าโภคภัณฑ์ ดังนั้นกองทุนกลุ่มนี้จึงได้รับประโยชน์จากการทะยานขึ้นของราคาน้ำมันและราคาวัตถุดิบอื่น ๆ ซึ่งรวมถึงกองทุนอินเวสโก เอ็นเนอร์จีที่พุ่งขึ้นมาแล้วเกือบ 49% จากช่วงต้นปีนี้ และครองอันดับหนึ่งในบรรดากองทุนแบบกระจายความเสี่ยง (diversified) ในอันดับที่จัดทำโดยบริษัทมอร์นิงสตาร์ในช่วงกลางเดือนธ.ค. ทางด้านกองทุน MicroSectors U.S. Big Oil 3x Leveraged ETN ซึ่งลงทุนในบริษัทเชฟรอน และบริษัทเอ็กซอน โมบิลในกลุ่มน้ำมัน ทะยานขึ้นมาแล้ว 172% จากช่วงต้นปีนี้ และครองอันดับหนึ่งในบรรดากองทุนทั้งหมดในอันดับที่จัดทำโดยมอร์นิงสตาร์--จบ--
(รอยเตอร์ โดย จิตร โพธิ์แก้ว แปลและเรียบเรียง)
((jit.phokaew@thomsonreuters.com; โทร 08-7689-6043;
นิวยอร์ค--26 ธ.ค.--รอยเตอร์
นักวิเคราะห์ตลาดหุ้นสหรัฐระบุว่า นักลงทุนกำลังตั้งความหวังว่า ตลาดหุ้นสหรัฐอาจจะพุ่งขึ้นในช่วงสิ้นปีนี้ตามแบบที่เรียกว่า Santa Claus rally และการพุ่งขึ้นดังกล่าวอาจจะช่วยบรรเทาความเสียหายอย่างรุนแรงที่เกิดขึ้นกับตลาดหุ้นสหรัฐในปีนี้ และอาจจะถือเป็นสัญญาณบ่งชี้ถึงแนวโน้มที่สดใสสำหรับปี 2023 ทั้งนี้ Santa Claus rally คือการที่ตลาดหุ้นสหรัฐมักจะพุ่งขึ้นในช่วง 5 วันทำการสุดท้ายของเดือนธ.ค. และ 2 วันทำการแรกของเดือนม.ค. โดยข้อมูลจาก CFRA Research แสดงให้เห็นว่า เคยเกิดเหตุการณ์แบบนี้กับตลาดหุ้นสหรัฐมาแล้วราว 75% ของช่วงเวลาในอดีต และการที่ตลาดหุ้นมักจะพุ่งขึ้นในช่วงเวลานี้ของปีมีสาเหตุมาจากสภาพคล่องที่ระดับต่ำ, การลงทุนเพื่อสิทธิประโยชน์ทางภาษี และการนำเงินโบนัสช่วงปลายปีมาลงทุน
วันศุกร์ที่ 23 ธ.ค.ถือเป็นวันเริ่มต้นสำหรับช่วงเวลา Santa Claus rally ในปีนี้ และช่วงเวลาดังกล่าวจะสิ้นสุดลงในวันทำการวันที่ 2 ของตลาดในปี 2023 โดย Stock Trader's Almanac ระบุว่า ปรากฏการณ์ Santa Claus rally นี้ส่งผลให้ดัชนี S&P 500 ของตลาดหุ้นสหรัฐพุ่งขึ้นเฉลี่ย 1.3% ในช่วงเวลา 7 วันทำการดังกล่าวนับตั้งแต่ปี 1969 เป็นต้นมา ทั้งนี้ ดัชนี S&P 500 ของตลาดหุ้นสหรัฐดิ่งลงมาแล้วราว 6% จากช่วงต้นเดือนธ.ค.ปีนี้ ถึงแม้ว่าโดยปกติแล้วดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐมักจะพุ่งขึ้นในเดือนธ.ค.ของแต่ละปี โดยในเดือนนี้ดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐได้รับแรงกดดันจากการรูดลงของหุ้นบริษัทเทสลา, หุ้นบริษัทอะเมซอนดอทคอม และหุ้นบริษัทอื่น ๆ ที่เคยนำตลาดหุ้นพุ่งขึ้นในช่วงหลายปีที่ผ่านมา นอกจากนี้ ดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐยังดิ่งลงมาแล้วเกือบ 20% จากช่วงต้นปีนี้ด้วย และมีแนวโน้มว่าอาจจะปิดตลาดปีนี้ด้วยการดิ่งลงรายปีครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่ปี 2008
บริษัทแอลพีแอล ไฟแนนเชียลระบุว่า ข้อมูลสถิตินับตั้งแต่ปี 1950 เป็นต้นมาบ่งชี้ว่า ในปีใดก็ตามที่ไม่เกิดปรากฏการณ์ Santa rally ในเดือนธ.ค. ตลาดหุ้นก็มักจะปรับขึ้นน้อยกว่าปกติในปีถัดไป โดยดัชนี S&P 500 ปรับขึ้นเฉลี่ยเพียง 4.1% ในปีใดก็ตามที่ไม่เกิดเหตุการณ์ Santa rally ในปีก่อนหน้านั้น แต่ดัชนีปรับขึ้นเฉลี่ย 10.9% ในปีใดก็ตามที่เกิดปรากฏการณ์ Santa rally ในปีก่อนหน้านั้น นอกจากนี้ ดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐยังร่วงลงเฉลี่ย 0.3% ในเดือนม.ค.ถ้าหากไม่เกิดปรากฏการณ์ Santa rally ในเดือนก่อนหน้านั้นด้วย แต่ดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐพุ่งขึ้นเฉลี่ย 1.3% ในเดือนม.ค. ถ้าหากเกิดปรากฏการณ์ Santa rally ในเดือนก่อนหน้านั้น ทั้งนี้ นายคีธ เลอร์เนอร์ หัวหน้าเจ้าหน้าที่ฝ่ายการลงทุนของบริษัททรูอิสต์ แอดไวซอรี เซอร์วิสเซสกล่าวว่า "เมื่อใดก็ตามที่ไม่เกิดปรากฏการณ์ Santa Claus rally นั่นก็มักจะหมายความว่ามีปัจจัยบางอย่างในตลาดหุ้นที่ทำให้นักลงทุนรู้สึกสับสน หรือมีอุปสรรคบางอย่างที่ขัดขวางการพุ่งขึ้นของตลาดหุ้น และบรรยากาศในทางลบนี้จะไม่เปลี่ยนแปลงไปเมื่อเข้าสู่ปีใหม่"
ดัชนี S&P 500 เคยปิดตลาดเดือนธ.ค.ในแดนลบมาแล้วเพียง 18 ครั้งเท่านั้นนับตั้งแต่ปี 1950 เป็นต้นมา โดยดัชนี S&P 500 พุ่งขึ้นเฉลี่ย 1.6% ในเดือนธ.ค.ของแต่ละปี ซึ่งส่งผลให้เดือนธ.ค.ถือเป็นเดือนที่ตลาดหุ้นพุ่งขึ้นเฉลี่ยมากที่สุดในแต่ละปี ส่วนอัตราการปรับขึ้นโดยเฉลี่ยของตลาดหุ้นในแต่ละเดือนอยู่ที่ 0.7% ทั้งนี้ ตลาดหุ้นสหรัฐมีแนวโน้มที่จะปิดตลาดเดือนธ.ค.ปีนี้ในแดนลบ หลังจากนักลงทุนเทขายหุ้นสุทธิ 4.19 หมื่นล้านดอลลาร์ในช่วงสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 21 ธ.ค. ซึ่งถือว่าสูงเป็นประวัติการณ์ โดยแบงก์ ออฟ อเมริกา โกลบัล รีเสิร์ชระบุว่า แรงเทขายนี้เกิดจาก "tax loss harvesting" หรือการที่นักลงทุนขายสินทรัพย์ออกมาในราคาขาดทุน เพื่อจะได้นำไปใช้ลดหย่อนภาษีกำไรจากการขายทรัพย์สิน ทางด้านนักยุทธศาสตร์การลงทุนของบริษัทดาตาเทรคระบุว่า ถ้าหากไม่เกิดเหตุการณ์ Santa Claus rally ในเดือนนี้ สิ่งนี้ก็จะถือเป็นสัญญาณในทางลบสำหรับผลตอบแทนจากการลงทุนในหุ้นสหรัฐในปี 2023
สหรัฐมีกำหนดจะรายงานตัวเลขเศรษฐกิจเพียงไม่กี่ตัวในสัปดาห์นี้ ซึ่งรวมถึงตัวเลขภาคที่อยู่อาศัยและยอดผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ในสหรัฐ โดยมีแนวโน้มว่าสภาพคล่องในตลาดหุ้นสหรัฐจะดิ่งลงเข้าใกล้จุดต่ำสุดของปีในสัปดาห์นี้ด้วย เนื่องจากนักลงทุนหลายรายออกไปพักผ่อนสำหรับช่วงวันหยุดแล้ว ทั้งนี้ แนวโน้มของตลาดหุ้นสหรัฐจะได้รับผลกระทบจากประเด็นที่ว่า อัตราเงินเฟ้อสหรัฐจะชะลอตัวลงต่อไปหรือไม่ และธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะยุติการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเวลาที่เร็วกว่าที่เฟดเคยประเมินไว้หรือไม่ โดยนายแซม สโตวอลล์ หัวหน้านักยุทธศาสตร์การลงทุนของบริษัท CFRA กล่าวว่า "ถ้าหากนักลงทุนเริ่มมองเห็นว่า เศรษฐกิจสหรัฐชะลอตัวลงอย่างรวดเร็วเกินคาด และคาดการณ์ว่าเฟดจะยุติการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในไตรมาสแรกของปีหน้า" ตลาดหุ้นก็จะอาจจะปรับตัวแตกต่างกันในช่วงครึ่งแรกและครึ่งหลังของปีหน้า และอาจจะให้ผลตอบแทนเป็นบวกอย่างมากในปีหน้า--จบ--
(รอยเตอร์ โดย จิตร โพธิ์แก้ว แปลและเรียบเรียง)
((jit.phokaew@thomsonreuters.com; โทร 08-7689-6043;
ตลาดหุ้นวอลล์สตรีทปิดบวกเล็กน้อยในวันอังคาร หลังจากที่ร่วงลง 4 วันติดต่อกัน แต่นักลงทุนกังวลกับการใช้จ่ายที่ซบเซาในช่วงวันหยุด และผลตอบแทนพันธบัตรที่เพิ่มขึ้นได้เพิ่มแรงกดดัน หลังจากธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) ปรับเปลี่ยนนโยบายการเงินอย่างไม่คาดคิดด้วยการปล่อยให้อัตราดอกเบี้ยระยะยาวเพิ่มขึ้นอีกได้ ขณะที่ความวิตกเกี่ยวกับแผนของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่จะขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไปนั้นกดดันหุ้นอย่างหนักมาตั้งแต่การประชุมนโยบายในสัปดาห์ที่แล้ว
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดเพิ่มขึ้น 92.2 จุด หรือ 0.28% ที่ 32,840.74, ดัชนี S&P 500 ปิดบวก 3.96 จุด หรือ 0.10% สู่ระดับ 3,821.62 และดัชนี Nasdaq ปิดบวก 1.08 จุด หรือ 0.01% สู่ 10,547.11
ราคาพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐร่วงลง หลังการดำเนินการที่ไม่คาดคิดของบีโอเจ โดยผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปีของสหรัฐพุ่งแตะระดับสูงสุดในรอบ 3 สัปดาห์ที่ 3.71%
ในบรรดาหุ้นหลัก 11 กลุ่มของดัชนี S&P 500 นั้น หุ้นกลุ่มพลังงานพุ่งขึ้นมากที่สุด เนื่องจากราคาน้ำมันดิบพุ่งขึ้น ส่วนในบรรดาหุ้น 4 กลุ่มที่ร่วงลงนั้น หุ้นกลุ่มสินค้าฟุ่มเฟือยร่วงลงมากที่สุด
ข้อมูลระบุว่า ยอดขายบ้านเดี่ยวในสหรัฐร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 2 ปีครึ่งในเดือนพ.ย. และใบอนุญาตเพื่อการก่อสร้างในอนาคตร่วงลงเนื่องจากอัตราดอกเบี้ยสินเชื่อจำนองที่สูงขึ้นยังคงทำให้กิจกรรมซื้อขายในตลาดบ้านตกต่ำลง--จบ--
(รอยเตอร์ โดย เสาวณีย์ เอกปัญญาชัย แปลและเรียบเรียง)
แซนโฮเซ แคลิฟอร์เนีย, Nov. 10, 2022 (GLOBE NEWSWIRE) — ในวันนี้ Zoom Video Communications, Inc. ได้เริ่มต้น Zoomtopia 2022 ซึ่งเป็นกิจกรรมประจำปีของบริษัทในการเปิดเผยนวัตกรรมใหม่เพื่อขับเคลื่อนประสบการณ์การทำงานที่ทันสมัย และเฉลิมฉลองอนาคตของการสื่อสารและการทำงานร่วมกัน Zoomtopia 2022 นำเสนอประสบการณ์ไฮบริดเป็นครั้งแรก ซึ่งขับเคลื่อนโดย Zoom Events โซลูชันการจัดการเหตุการณ์เสมือนจริงแบบรวมทุกอย่างไว้ในหนึ่งเดียวของ Zoom
“ในขณะที่องค์กรระดับโลกกำลังปรับตัวให้เข้ากับงานต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการปรับตัวให้เข้ากับวิธีที่เกิดขึ้น เวลาที่เกิดขึ้น และสถานที่ที่เกิดขึ้นนั้นเอง การให้การเชื่อมต่อของมนุษย์มีความสำคัญสูงสุดในการขับเคลื่อนกลยุทธ์ทางธุรกิจไปข้างหน้าก็ยังเป็นสิ่งสำคัญครับ” Eric S. Yuan ซีอีโอของ Zoom กล่าว “Zoom สร้างมาเพื่อให้การเชื่อมต่อทุกประเภทนั้นเป็นไปได้ มีประสิทธิภาพ และมีความหมาย ทีมงานของเราได้สร้างและเปิดตัวฟีเจอร์และการปรับปรุงมากกว่า 1,500 รายการบนแพลตฟอร์ม Zoom ในปีนี้ ซึ่งทำให้วิธีที่ผู้คนเชื่อมต่อกัน องค์กร และลูกค้าของพวกเขาก้าวหน้าขึ้น และสิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือการเปิดประตูสู่ความคิดสร้างสรรค์และการทำงานร่วมกันครับ”
“ไม่เคยมีความไม่แน่นอนเกี่ยวกับอนาคตของการทำงานมากไปกว่าที่เป็นอยู่ในปัจจุบันแล้ว การทำงานได้จากทุกที่ สำนักงานแบบไฮบริด และเทรนด์อื่น ๆ ได้สร้างชุดคำถามที่ซับซ้อนซึ่งผู้นำธุรกิจและไอทีจำเป็นต้องหาคำตอบ ไม่ว่าผลลัพธ์จะออกมาอย่างไร ก็มีสิ่งหนึ่งครับที่แน่นอน และนั่นก็คือเครื่องมือการทำงานร่วมกันจะมีความสำคัญอย่างยิ่งในการทำให้พนักงานเชื่อมต่อถึงกัน” Zeus Kerravala นักวิเคราะห์หลักของ ZK Research กล่าว “Zoom ได้พัฒนาอย่างรวดเร็วจากการเป็นบริษัทจัดการประชุมเฉพาะกลุ่มไปสู่แพลตฟอร์มการทำงานร่วมกันในวงกว้างที่มอบประสบการณ์พนักงานและลูกค้าที่ไม่มีใครเทียบได้ และช่วยให้องค์กรตอบสนองความต้องการในการทำงานทั้งในปัจจุบันและอนาคต”
“ทีมงานของเราเชื่อมต่อและทำงานร่วมกันบน Zoom ทำให้เราสามารถทำงานร่วมกันได้อย่างราบรื่นไม่ว่าเราจะอยู่ที่ใด ทั้งนี้ก็เพื่อให้เราสามารถนำเสนอเนื้อหาระดับโลกจากแบรนด์อันเป็นสัญลักษณ์ของเราต่อไปได้ ทั้ง HBO, Warner Bros., CNN และ Food Network และนำเสนอตัวละครอันเป็นที่รักอย่าง Batman, Superman, Looney Tunes และ Harry Potter ต่อไปด้วย” Dave Duvall, CIO - Technology & Operations, Warner Bros. Discovery กล่าว “เราสามารถพัฒนาต่อไปได้เรื่อย ๆ ด้วย Zoom โดยเฉพาะอย่างยิ่งในขอบเขตที่นอกเหนือจากการประชุม ด้วยผลิตภัณฑ์อย่างเช่น Zoom Phone, Zoom Rooms และ Zoom Team Chat แพลตฟอร์มทั้งหมดได้ขยายขีดความสามารถของเราในการทำงานร่วมกันและเชื่อมต่อกันภายในองค์กร”
ได้มีการประกาศวัตกรรมของแพลตฟอร์ม Zoom ที่ Zoomtopia Zoom ได้เปิดตัวข้อเสนอใหม่หลายรายการเพื่อเพิ่มขีดความสามารถให้กับธุรกิจและบุคคล เพื่อก้าวไปสู่ยุคใหม่ของการสื่อสาร
ประกาศล่าสุดบางส่วนนั้น ได้แก่ :
เรียนรู้เพิ่มเติม เกี่ยวกับนวัตกรรมเหล่านี้และคุณลักษณะการทำงานแบบไฮบริดอื่น ๆ
สร้างเพื่อเชื่อมต่อและเพิ่มมูลค่าของ Zoom นักพัฒนาสามารถใช้ Zoom APIs, SDKs อีกทั้งเครื่องมือและทรัพยากรต่าง ๆ เพื่อสร้างแอปและการผสานรวมกับ Zoom หรือใช้เทคโนโลยีหลักของ Zoom เพื่อขับเคลื่อนโซลูชันที่เน้นวิดีโอเป็นหลักที่เป็นนวัตกรรมให้กับกรณีการใช้งานใด ๆ ก็ตาม
นักพัฒนาสามารถทำสิ่งต่าง ๆ ได้มากขึ้นบน Zoom ด้วย:
ฟังข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีที่นักพัฒนาสามารถเพิ่มพลังของ Zoom ด้วยการอัปเดตใหม่ ๆ ของแพลตฟอร์ม Zoom Developer Platform และ Zoom Apps ได้ที่ Developer Summit ที่ Zoomtopia
รับชมสด Zoomtopia เป็นประสบการณ์ไฮบริดระยะเวลาสองวันที่โฮสต์บนแพลตฟอร์ม Zoom Events ซึ่งประกอบด้วยวิทยากรที่ชวนกระตุ้นความคิด ผู้นำทางธุรกิจ และการปรากฏตัวของคนดัง และรวมถึงโอกาสมากมายในการสร้างเครือข่าย การทำงานร่วมกัน และเรียนรู้อีกด้วย รับชมสด เพื่อรับเนื้อหาอันน่าตื่นเต้นทั้งหมด
เกี่ยวกับ Zoom
Zoom เหมาะสำหรับคุณ Zoom เป็นพื้นที่ที่คุณสามารถเชื่อมต่อกับผู้อื่น แบ่งปันความคิด วางแผน และสร้างอนาคตที่ถูกจำกัดด้วยจินตนาการของคุณเท่านั้น แพลตฟอร์มการสื่อสารที่ราบรื่นของเราเป็นเพียงแพลตฟอร์มเดียวที่เริ่มต้นด้วยการมีวิดีโอเป็นรากฐาน และเราได้เป็นผู้กำหนดมาตรฐานสำหรับนวัตกรรมนับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา เราจึงเป็นตัวเลือกที่ใช้งานง่าย ปรับขนาดได้ และปลอดภัยสำหรับทั้งองค์กรขนาดใหญ่ ธุรกิจขนาดเล็ก และบุคคลทั่วไป Zoom ก่อตั้งขึ้นในปี 2011 มีการซื้อขายต่อสาธารณะ และมีสำนักงานใหญ่ในซานโฮเซ่ รัฐแคลิฟอร์เนีย เยี่ยมชม zoom.com และติดตาม @zoom
ฝ่ายประชาสัมพันธ์ Zoom
Candace Dean
หัวหน้าฝ่ายประชาสัมพันธ์ขององค์กร
press@zoom.us
นิวยอร์ค--6 ก.ค.--รอยเตอร์
ความกังวลที่ว่าเศรษฐกิจสหรัฐอาจจะเข้าสู่ภาวะถดถอยส่งผลให้ผู้จัดการกองทุนบางรายโยกย้ายเงินลงทุนเข้าสู่หุ้นบริษัทขนาดใหญ่ในกลุ่มเติบโตและกลุ่มเทคโนโลยี ซึ่งเป็นหุ้นกลุ่มที่เคยพุ่งสูงในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา เนื่องจากผู้จัดการกองทุนกลุ่มนี้คาดว่า หุ้นเหล่านี้อาจจะปรับตัวได้ดีกว่าหุ้นกลุ่มอื่น ๆ ในช่วงที่เศรษฐกิจถดถอย ทั้งนี้ หุ้นบริษัทขนาดใหญ่หลายแห่ง ซึ่งรวมถึงหุ้นบริษัทไมโครซอฟท์, แอปเปิล และแอลฟาเบท ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของกูเกิล ดิ่งลงในระดับที่มากกว่าหรือเท่ากับดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ โดยได้รับแรงกดดันจากการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างแข็งกร้าวของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) หลังจากหุ้นเหล่านี้เคยพุ่งขึ้นอย่างแข็งแกร่งกว่าดัชนีตลาดหุ้นในช่วงหลายปีที่ผ่านมา
อย่างไรก็ดี หุ้นเติบโตมีแนวโน้มที่จะได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจน้อยกว่าหุ้นกลุ่มอื่น ๆ และด้วยเหตุนี้นักลงทุนบางรายจึงเชื่อว่า บริษัทในกลุ่มเติบโตที่มีอัตราผลกำไรสูงมาก อาจจะมีราคาหุ้นทะยานขึ้นอย่างแข็งแกร่งกว่าดัชนีตลาดหุ้นโดยรวมได้ด้วย ถ้าหากการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดส่งผลให้เศรษฐกิจสหรัฐเข้าสู่ภาวะถดถอยในอนาคต ทั้งนี้ นางไซรา มาลิค หัวหน้าเจ้าหน้าที่ฝ่ายการลงทุนของบริษัทนูวีนกล่าวว่า "เริ่มมีสัญญาณบ่งชี้ถึงความเปราะบางในการเติบโตทางเศรษฐกิจของสหรัฐ ดังนั้นคุณจึงควรจะเลือกลงทุนในบริษัทที่อยู่ในสถานะที่ดีมากในภาคเทคโนโลยี" โดยนางมาลิคได้ปรับเพิ่มสถานะการลงทุนในบริษัทอะเมซอนดอทคอม และบริษัทเซลส์ฟอร์ซดอทคอมในช่วงที่ผ่านมา และเธอกล่าวเสริมว่า บริษัทที่ไม่มีประสิทธิภาพในการทำกำไรจะยังคงได้รับแรงกดดัน
กระแสการลงทุนในหุ้นเหล่านี้ยังคงอยู่ในขั้นเริ่มต้น โดยผลสำรวจล่าสุดของแบงก์ ออฟ อเมริกา โกลบัล รีเสิร์ชระบุว่า ผู้จัดการกองทุนทั่วโลกปรับเพิ่มสัดส่วนการลงทุนในหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีขึ้นเพียง 0.07% และยังคงคาดการณ์ในทางลบต่อหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีโดยรวม อย่างไรก็ดี บริษัทแวนดา รีเสิร์ชระบุว่า นักลงทุนรายย่อยได้เข้าช้อนซื้อหุ้นบริษัทขนาดใหญ่ในกลุ่มเทคโนโลยีในช่วงที่ราคาดิ่งลงก่อนหน้านี้ ซึ่งรวมถึงหุ้นแอปเปิล ทั้งนี้ ดัชนี Russell 1000 สำหรับหุ้นเติบโตของสหรัฐดิ่งลง 28.4% ในช่วงครึ่งปีแรก ในขณะที่ดัชนี Russell 1000 สำหรับหุ้นคุณค่าของสหรัฐรูดลงเพียง 13.9% ในช่วงครึ่งปีแรก โดยหุ้นคุณค่านี้ครอบคลุมหุ้นกลุ่มพลังงานที่มักจะปรับตัวตามภาวะเศรษฐกิจด้วย ทางด้านดัชนี S&P 500 ของตลาดหุ้นสหรัฐดิ่งลง 20.7% ในครึ่งปีแรก ซึ่งถือเป็นอัตราการดิ่งลงครั้งใหญ่ที่สุดสำหรับช่วงครึ่งปีแรกนับตั้งแต่ปี 1970 เป็นต้นมา
กองทุน ARK Innovation ETF ของนางแคธี วูด ดิ่งลงราว 57.7% ในช่วงครึ่งปีแรก โดยกองทุนแห่งนี้ถือครองหุ้นบริษัทใหม่ในภาคเทคโนโลยี ซึ่งรวมถึงหุ้นบริษัทซูม วิดีโอ คอมมูนิเคชันส์ และหุ้นบริษัทเทลาดอคที่ทำธุรกิจโทรเวชกรรม ทั้งนี้ นักลงทุนกังวลกับภาวะเศรษฐกิจถดถอยมากยิ่งขึ้นในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา โดยธนาคารดอยช์ แบงก์เปิดเผยผลสำรวจความเห็นนักลงทุนในเดือนมิ.ย.ระบุว่า นักลงทุน 90% คาดว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะเข้าสู่ภาวะถดถอยก่อนสิ้นปี 2023 โดยพุ่งขึ้นจาก 78% ในผลสำรวจเดือนพ.ค.
นายแจ็ค จานาซีวิคส์ นักยุทธศาสตร์การลงทุนของบริษัทแนติซิส อินเวสท์เมนท์ แมเนเจอร์ส โซลูชันส์ระบุว่า ความกังวลเรื่องภาวะเศรษฐกิจถดถอยถือเป็นเหตุผลอันดีสำหรับการปรับเพิ่มสถานะการลงทุนในบริษัทแอลฟาเบท และบริษัทต่าง ๆ ที่เคยมีราคาหุ้นดิ่งลงในช่วงที่ผ่านมาจนส่งผลให้มูลค่าหุ้นมีความน่าดึงดูด โดยขณะนี้ค่าพีอีเรโชล่วงหน้าของบริษัทในกลุ่มเทคโนโลยีของสหรัฐดิ่งลงสู่ 19.1 เท่าของคาดการณ์ผลกำไร ซึ่งถือเป็นจุดต่ำสุดนับตั้งแต่ต้นปี 2020 ทั้งนี้ นายลินด์เซย์ ฮอทัน ผู้จัดการพอร์ตลงทุนในบริษัทฮาร์เบอร์ แคปิตัลระบุว่า มีสัญญาณบ่งชี้ว่าราคาสินค้าโภคภัณฑ์อาจจะผ่านพ้นจุดสูงสุดไปแล้ว และปัจจัยดังกล่าวอาจจะเปิดโอกาสให้เฟดชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนก.ย. โดยบริษัทของเขาได้ขายหุ้นบางตัวในกลุ่มพลังงานออกมาในช่วงนี้ และโยกย้ายเงินลงทุนเข้าสู่หุ้นบริษัทขนาดใหญ่ในกลุ่มเทคโนโลยี เพราะเขาเชื่อว่าหุ้นกลุ่มนี้อาจจะพุ่งขึ้นอย่างน้อย 20% ต่อปีในช่วงหลายปีข้างหน้า เนื่องจากมูลค่าหุ้นกลุ่มนี้อยู่ในระดับต่ำมาก และบริษัทในกลุ่มนี้น่าจะครองส่วนแบ่งตลาดได้มากขึ้น--จบ--
(รอยเตอร์ โดย จิตร โพธิ์แก้ว แปลและเรียบเรียง)
((jit.phokaew@thomsonreuters.com; โทร 08-7689-6043;
การดิ่งลงอย่างหนักของหุ้นและพันธบัตร, ความผันผวนรุนแรงของตลาด และความตั้งใจของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่จะควบคุมอัตราเงินเฟ้อที่เลวร้ายที่สุดในรอบกว่า 40 ปีเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับตลาดสหรัฐในช่วงครึ่งปีแรกนี้ และ ณ วันพุธที่ผ่านมา ดัชนี S&P 500 จะปิด 6 เดือนแรกของปีนี้ด้วยการดิ่งลง 20% ทำให้มูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดหายไปราว 8.2 ล้านล้านดอลลาร์ ขณะที่ดัชนีดิ่งลงมากที่สุดในช่วงครึ่งปีแรกนับตั้งแต่ปี 1970
พันธบัตรปรับตัวดีกว่าเล็กน้อย โดยดัชนีพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐของ BofA ในตลาด ICE ร่วงเกือบ 10% แล้วในปีนี้ ซึ่งจะเป็นการร่วงลงมากที่สุดของดัชนีนับตั้งแต่ปี 1997 และในขณะนี้ นักลงทุนแทบไม่เห็นการชะลอความผันผวนที่ทำให้ตลาดดิ่งลงในรอบหลายเดือนที่ผ่านมาท่ามกลางความวิตกที่ว่า การต่อสู้กับเงินเฟ้อของเฟดจะทำให้ความต้องการสินทรัพย์เสี่ยงลดลงไปอีก ขณะเดียวกันก็อาจจะทำให้เศรษฐกิจสหรัฐถดถอย
ในเดือนหน้า จะมีการแถลงผลประกอบการรอบใหม่, การเปิดเผยข้อมูลเงินเฟ้อล่าสุด และการประชุมของเฟด ซึ่งทำให้มีโอกาสมากมายที่ตลาดจะต่อยอดการพุ่งขึ้นของตลาดหุ้นที่เพิ่งเริ่มในกลางเดือนมิ.ย. หรือจะมองหาจุดต่ำสุดใหม่
การดิ่งลงของหุ้นยังได้ทดสอบกลยุทธ์ที่เป็นที่นิยมในการซื้อหุ้นในช่วงขาลง ซึ่งทำให้นักลงทุนได้รับผลตอบแทนในช่วงทศวรษที่ผ่านมา แต่ก็ประสบความยากลำบากในปีนี้ท่ามกลางการดิ่งลงของดัชนี S&P 500 โดยดัชนีดีดตัวขึ้น 6% 3 ครั้งในปีนี้ ซึ่งพลิกกลับมาร่วงต่ำกว่าจุดต่ำสุดครั้งก่อนแล้ว ขณะที่การดีดตัวขึ้นครั้งล่าสุดส่งผลให้ดัชนีพุ่งขึ้นราว 3% จากระดับต่ำสุดในกลางเดือนมิ.ย.
แนวทางยอดนิยมอีกวิธีที่ได้รับผลกระทบในปีนี้ก็คือพอร์ทการลงทุนแบบ 60/40 ซึ่งนักลงทุนจะเข้าซื้อหุ้นและพันธบัตรผสมกันเพื่อปกป้องการดิ่งลงของตลาดหุ้น เนื่องจากหุ้นจะพุ่งขึ้นท่ามกลางความหวังต่อเศรษฐกิจ และพันธบัตรจะพุ่งขึ้นในช่วงที่เกิดความผันผวน แต่กลยุทธ์นี้ใช้ไม่ได้ในปีนี้ เนื่องจากการคาดการณ์การคุมเข้มนโยบายของเฟดถ่วงสินทรัพย์ทั้งสองประเภท โดยกองทุนจัดสรรการลงทุนตามเป้าหมาย 60/40 ของแบล็คร็อคร่วงลง 16% แล้วตั้งแต่ต้นปีนี้ ซึ่งเป็นผลการดำเนินงานที่แย่ที่สุดนับตั้งแต่เปิดตัวในปี 2006
แทบไม่มีนักลงทุนที่เชื่อว่า ความผันผวนรุนแรงของตลาดจะเบาบางลงจนกว่าจะมีหลักฐานบ่งชี้ว่า อัตราเงินเฟ้อกำลังลดลง ซึ่งจะทำให้เฟดสามารถชะลอหรือยุติการคุมเข้มนโยบายทางการเงิน ซึ่งในขณะนี้ คำเตือนเกี่ยวกับภาวะถดถอยเริ่มดังขึ้นในตลาดวอลล์สตรีท เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นมีผลกระทบต่อเศรษฐกิจแล้ว--จบ--
Genesys เปิดใช้งานช่องสัญญาณทางตรงและทางอ้อมด้วยโซลูชัน Zoom Phone และ Genesys Cloud CX ร่วมกัน
ซานโฮเซ่ แคลิฟอร์เนีย และซานฟรานซิสโก, June 06, 2022 (GLOBE NEWSWIRE) — Zoom Video Communications, Inc. และ Genesys® ผู้นำระดับโลกด้านการจัดการประสบการณ์ลูกค้า ได้ขยายความร่วมมือเพื่อช่วยให้ธุรกิจสามารถมอบประสบการณ์แก่ลูกค้าได้อย่างง่ายดาย โดยสร้างขึ้นจากการผสานรวมกันระหว่าง Zoom Phone และ Genesys Cloud CX™ ข้อเสนอที่มีร่วมกันช่วยให้องค์กรมีศูนย์ติดต่อระบบคลาวด์ที่กำหนดค่าได้ง่ายและมีคุณลักษณะมากมาย อีกทั้งยังมีโซลูชันการสื่อสารแบบครบวงจรที่ช่วยให้ทีมงานสามารถทำงานร่วมกันได้ดียิ่งขึ้นเพื่อช่วยแก้ปัญหาในด้านความต้องการของลูกค้า
ความร่วมมือที่ขยายออกไปของบริษัทรวมถึงความสัมพันธ์ในการเข้าสู่ตลาด โดยที่ Genesys จะใช้ช่องทางทั่วโลกทั้งทางตรงและทางอ้อมของตนในการส่งมอบโซลูชัน Zoom Phone ที่ผสานรวมกับ Genesys Cloud CX
InflowCX ซึ่งเป็นผู้ให้บริการมืออาชีพและผู้ให้บริการคำปรึกษาสำหรับศูนย์ติดต่อ ฝ่ายประสบการณ์ลูกค้า และโซลูชันการสื่อสารแบบครบวงจร ได้มองเห็นศักยภาพที่เพิ่มขึ้นสำหรับองค์กรในการปรับใช้ Zoom และ Genesys ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการเปลี่ยนแปลง UCaaS และ CCaaSเมื่อเร็ว ๆ นี้บริษัทยังได้ช่วยเหลือองค์กรสองแห่ง ซึ่งได้แก่ ผู้ให้บริการด้านการดูแลสุขภาพเด็กและบริษัทประกันภัยรถยนต์ ซึ่งก็ได้นำข้อเสนอแบบบูรณาการจาก Zoom และ Genesys มาปรับใช้ด้วย องค์กรทั้งสองแห่งนี้ต่างก็มีเป้าหมายให้พนักงานสามารถส่งข้อมูลระหว่างผู้ใช้ศูนย์ติดต่อ
และส่วนอื่น ๆ ของธุรกิจได้ง่ายขึ้น เพื่อให้ลูกค้าและผู้ป่วยสามารถรับการบริการได้อย่างราบรื่นยิ่งขึ้น ไม่ว่าพวกเขาจะติดต่อสื่อสารผ่านการโทร ช่องทางดิจิทัล หรือกำลังเดินเข้าไปในสำนักงานก็ตาม
Mike Dolloff หัวหน้าเจ้าหน้าที่ฝ่ายรายได้ของ InflowCX กล่าวว่า “ทุกวันนี้ ธุรกิจไม่ได้ต้องการจัดการกับขั้นตอนการทำงานที่ยุ่งยากและน่าอึดอัดใจ เพียงเพื่อแค่เคลื่อนย้ายปฏิสัมพันธ์ของลูกค้าไปมาระหว่างชุดเทคโนโลยีต่าง ๆ ที่องค์กรใช้ แต่ด้วยการทำงานร่วมกันนี้ ทาง Zoom และ Genesys กำลังแก้ไขอุปสรรคใหญ่ให้กับลูกค้าของเราหลายราย อีกทั้งยังเชื่อมโยงการสื่อสารทั่วทั้งองค์กร และปรับปรุงประสบการณ์ของพนักงานและลูกค้าอีกด้วย ในทุกภาคอุตสาหกรรม ไม่ว่าจะบริษัทเล็กหรือใหญ่ เรามักจะได้ยินจากธุรกิจต่าง ๆ ว่าการมีอยู่และความพร้อมของไดเรกทอรีระหว่าง Zoom Phone และ Genesys Cloud มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการส่งเสริมให้พนักงานนำลูกค้าไปยังทรัพยากรที่ถูกต้องในแบบเรียลไทม์”
“การประสานความร่วมมือกับ Genesys ให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้นนี้ จะช่วยเร่งการเปิดตัวของ Zoom Phone เข้าสู่ฐานลูกค้าที่แข็งแกร่งของ Genesys Cloud CX ได้รวดเร็วยิ่งขึ้น ซึ่งจะส่งผลให้ธุรกิจเหล่านั้นมีโซลูชันโทรศัพท์ระบบคลาวด์ที่ทันสมัย ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแพลตฟอร์มแบบครบวงจรไร้รอยต่อ ทั้งนี้ก็เพื่อปรับปรุงการทำงานร่วมกันของพนักงานและสร้างประสบการณ์ของลูกค้าที่มีความหมายและแข็งแกร่งมากขึ้น” Ryan Azus ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายรายได้ของ Zoom กล่าว “โซลูชันโทรศัพท์ที่เป็นนวัตกรรมของ Zoom นั้นเข้ากันได้อย่างสมบูรณ์แบบกับความสามารถในการประสานประสบการณ์ของ Genesys อีกทั้งยังเข้ากันได้กับเป้าหมายในการเปลี่ยนแปลงวิธีที่บริษัทต่าง ๆ เชื่อมต่อกับลูกค้าและพนักงานของบริษัท เรารู้สึกตื่นเต้นที่จะรวมการบูรณาการที่แข็งแกร่งนี้เข้ากับระบบนิเวศทางธุรกิจของพันธมิตรแบบเปิดของเรา เพื่อให้ธุรกิจมีความยืดหยุ่นและมีความสามารถในการเพิ่มประสิทธิภาพศูนย์การติดต่อบนคลาวด์และโซลูชันการสื่อสาร”
ML Maco ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายรายได้ของ Genesys กล่าวว่า “ความต้องการของตลาดที่เพิ่มขึ้นสำหรับโซลูชันการสื่อสารแบบครบวงจรและศูนย์ติดต่อถือเป็นการยอมรับจากธุรกิจต่าง ๆ ซึ่งในที่สุดแล้ว พนักงานทุกคนก็จะได้ให้บริการแก่ลูกค้า ไม่ว่าจะเป็นการให้บริการลูกค้าโดยตรงหรือไม่ก็ตาม” “นั่นจึงเป็นเหตุผลที่เราทำงานร่วมกับ Zoom เพื่อลดอุปสรรคสำหรับธุรกิจต่าง ๆ และระบบนิเวศทางธุรกิจของเราจะช่วยให้ลูกค้าที่เรามีร่วมกันเชื่อมต่อกับองค์กรได้ดียิ่งขึ้น อีกทั้งความร่วมมือนี้ยังทำให้เกิดสิ่งต่าง ๆ ที่อยู่เหนือความคาดหวังของผู้บริโภคในโลกดิจิทัลที่เปลี่ยนแปลงไป”
หากต้องการเรียนรู้เพิ่มเติม กรุณาเข้าร่วม Genesys Xperience 2022 ในสัปดาห์นี้ เพื่อฟังคุณ Oded Gal หัวหน้าเจ้าหน้าที่ฝ่ายผลิตภัณฑ์ของ Zoom และคุณ Peter Graf เจ้าหน้าที่ฝ่ายกลยุทธ์ของ Genesys พูดคุยถึงวิธีที่บริษัทต่าง ๆ ทำงานร่วมกันเพื่อช่วยให้ธุรกิจได้รับความไว้วางใจจากลูกค้าและพนักงาน ในเซสชันที่ดูแลโดย CX influencer Blair Pleasant ประธานและหัวหน้านักวิเคราะห์ของ COMMfusion เซสชันที่ Zoom และ Genesys มีร่วมกันจะจัดขึ้นในวันที่สองของ Xperience ตั้งแต่เวลา 5:30-6:00 น. ET และ 13:30-14:00 น. ET ในวันที่ 9 มิถุนายน และแบบ on-demand หลังจากวันงาน ลงทะเบียนตอนนี้
เกี่ยวกับ Zoom
Zoom เหมาะสำหรับคุณ เราช่วยให้คุณแสดงความคิด เชื่อมต่อกับผู้อื่น และต่อยอดไปสู่อนาคตตามจินตนาการของคุณ แพลตฟอร์มการสื่อสารที่ราบรื่นของเราเป็นแพลตฟอร์มเดียวที่เริ่มต้นด้วยการใช้วิดีโอเป็นรากฐาน และเราได้กำหนดมาตรฐานให้กับนวัตกรรมตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา เราจึงเป็นตัวเลือกที่ใช้งานง่าย ปรับเปลี่ยนได้ และปลอดภัยสำหรับทั้งองค์กรขนาดใหญ่ ธุรกิจขนาดเล็ก และบุคคลทั่วไป Zoom ก่อตั้งขึ้นในปี 2011 มีการซื้อขายต่อสาธารณะ และมีสำนักงานใหญ่ในซานโฮเซ่ รัฐแคลิฟอร์เนีย เยี่ยมชม zoom.com และติดตาม@zoom.
เกี่ยวกับ Genesys
ในทุก ๆ ปี Genesys ได้จัดเตรียมประสบการณ์ลูกค้าที่โดดเด่นกว่า 7 หมื่นล้านรายการสำหรับองค์กรต่าง ๆ มากกว่า 100 ประเทศ ด้วยพลังของเทคโนโลยีคลาวด์ ดิจิทัล และ AI ทำให้องค์กรสามารถรับรู้ Experience as a ServiceSM ซึ่งเป็นวิสัยทัศน์ของเราสำหรับประสบการณ์ลูกค้าที่เราดูแล ด้วย Genesys องค์กรต่าง ๆ จึงมีพลังในการมอบประสบการณ์เชิงรุก คาดการณ์ล่วงหน้าได้ และมีความเฉพาะตัวสูงเพื่อเพิ่มความเชื่อมโยงของลูกค้าในทุกด้านการตลาด การขาย และการให้บริการในทุกช่องทาง ในขณะเดียวกันก็ปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงานและการมีส่วนร่วมของพนักงานให้ดีขึ้นอีกด้วย Genesys ช่วยให้เกิดความใกล้ชิดอย่างแท้จริงในวงกว้างเพื่อส่งเสริมความไว้วางใจและความภักดีของลูกค้า โดยการเปลี่ยนเทคโนโลยีหลังบ้านให้เป็นเครื่องมือสร้างรายได้ที่ทันสมัยและรวดเร็ว เยี่ยมชม www.genesys.com
© 2021 Genesys สงวนลิขสิทธิ์ Genesys, โลโก้ Genesys, Genesys Cloud CX, Genesys Multicloud CX, Genesys DX และ Experience as a Service เป็นเครื่องหมายการค้า เครื่องหมายบริการ และ/หรือเครื่องหมายการค้าจดทะเบียนของ Genesys ชื่อและโลโก้บริษัทอื่น ๆ ทั้งหมดอาจเป็นเครื่องหมายการค้าจดทะเบียนหรือเครื่องหมายการค้าของบริษัทนั้น ๆ
สื่อมวลชนสัมพันธ์ ZoomBridget Moriarty
ผู้เชี่ยวชาญด้านการประชาสัมพันธ์
press@zoom.us
Genesys
Rachel Faulkner Perez
ผู้อำนวยการอาวุโส, ฝ่ายการสื่อสารภายนอก
Rachel.FaulknerPerez@genesys.com
+1 317.403.1781
ไวท์เลเบล
Data API
ปลั๊กอินเว็บไซต์
เครื่องมือออกแบบโปสเตอร์
โครงการพันธมิตร
ความเสี่ยงของการสูญเสียในการซื้อขายสินทรัพย์ทางการเงิน เช่น หุ้น FX สินค้าโภคภัณฑ์ ฟิวเจอร์ส พันธบัตร ETFs หรือเงินดิจิทัลอาจมีมาก คุณอาจสูญเสียเงินทุนทั้งหมดที่คุณฝากไว้กับโบรกเกอร์ของคุณ ดังนั้น คุณควรพิจารณาอย่างรอบคอบว่าการซื้อขายดังกล่าวเหมาะสมกับคุณหรือไม่ในสถานการณ์และทรัพยากรทางการเงินของคุณ
ไม่ควรตัดสินใจลงทุนโดยไม่ได้ดำเนินการตรวจสอบสถานะอย่างละเอียดถี่ถ้วนด้วยตัวเองหรือปรึกษากับที่ปรึกษาทางการเงินของคุณ เนื้อหาเว็บของเราอาจไม่เหมาะกับคุณเนื่องจากเราไม่ทราบเงื่อนไขทางการเงินและความต้องการในการลงทุนของคุณ ข้อมูลทางการเงินของเราอาจมีความล่าช้าหรือมีความไม่ถูกต้อง ดังนั้นคุณควรรับผิดชอบอย่างเต็มที่ต่อการตัดสินใจซื้อขายและการลงทุนของคุณ บริษัทจะไม่รับผิดชอบต่อการสูญเสียเงินทุนของคุณ
หากไม่ได้รับอนุญาตจากเว็บไซต์ คุณจะไม่สามารถคัดลอกกราฟิก ข้อความ หรือเครื่องหมายการค้าของเว็บไซต์ได้ สิทธิ์ในทรัพย์สินทางปัญญาในเนื้อหาหรือข้อมูลที่รวมอยู่ในเว็บไซต์นี้เป็นของผู้ให้บริการและผู้ค้าแลกเปลี่ยน