ตลาด
ข่าวสาร
การวิเคราะห์
ผู้ใช้
24x7
ปฏิทินเศรษฐกิจ
แหล่งเรียนรู้
ข้อมูล
- ชื่อ
- ค่าล่าสุด
- ครั้งก่อน
ค:--
ค: --
ค:--
ค: --
ค: --
ค:--
ค: --
ค:--
ค: --
ค: --
ค:--
ค: --
ค: --
ค:--
ค: --
ค: --
ค:--
ค: --
ค: --
ค:--
ค: --
ค: --
ค:--
ค: --
ค: --
ค:--
ค: --
ค:--
ค: --
ค:--
ค: --
ค: --
ค:--
ค: --
ค: --
ค:--
ค: --
ค:--
ค: --
ค:--
ค: --
ค:--
ค: --
ค: --
ค:--
ค: --
ค: --
ค:--
ค: --
ค:--
ค: --
ค:--
ค: --
ค: --
ค:--
ค: --
ค: --
ค:--
ค: --
ค:--
ค: --
ค: --
ค:--
ค: --
ค: --
ค:--
ค: --
ค: --
ค:--
ค: --
ค: --
ค:--
ค: --
ค: --
--
ค: --
ค: --
--
ค: --
ค: --
--
ค: --
ค: --
--
ค: --
ค: --
--
ค: --
ค: --
--
ค: --
ค: --
--
ค: --
ค: --
--
ค: --
ค: --
--
ค: --
ค: --
--
ค: --
ค: --
--
ค: --
ค: --
--
ค: --
ค: --
--
ค: --
ค: --
--
ค: --
ค: --
--
ค: --
ค: --
--
ค: --
ค: --
--
ค: --
ค: --
--
ค: --
ค: --
--
ค: --
ค: --
--
ค: --
ค: --
--
ค: --
ค: --
--
ค: --
ค: --
--
ค: --
ค: --
--
ค: --
ค: --
--
ค: --
ค: --
--
ค: --
ค: --
--
ค: --
ค: --
--
ค: --
ค: --
--
ค: --
ค: --
--
ค: --
ไม่มีข้อมูลที่ตรงกัน
ทัศนคติล่าสุด
ทัศนคติล่าสุด
หัวข้อยอดนิยม
เพื่อเรียนรู้การเปลี่ยนแปลงของตลาดอย่างรวดเร็วและติดตามตลาดโฟกัสใน 15 นาที
ในโลกของมนุษยชาติ จะไม่มีคำกล่าวใด ๆ ที่ไม่มีจุดยืนใด ๆ หรือคำพูดใด ๆ ที่ไม่มีจุดประสงค์ใด ๆ
อัตราเงินเฟ้อ อัตราแลกเปลี่ยน และเศรษฐกิจเป็นตัวกำหนดการตัดสินใจเชิงนโยบายของธนาคารกลาง ทัศนคติและคำพูดของเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางยังมีอิทธิพลต่อการกระทำของเทรดเดอร์ในตลาดอีกด้วย
เงินทำให้โลกหมุนไป และสกุลเงินเป็นสินค้าถาวร ตลาดฟอเร็กซ์เต็มไปด้วยความประหลาดใจและความคาดหวัง
คอลัมนิสต์ยอดนิยม
เพลิดเพลินกับกิจกรรมที่น่าตื่นเต้น ที่นี่ที่ FastBull
ข่าวด่วนล่าสุดและเหตุการณ์ทางการเงินทั่วโลก
ฉันมีประสบการณ์ 5 ปีในการวิเคราะห์ทางการเงิน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านการพัฒนามหภาคและการตัดสินแนวโน้มระยะกลางและระยะยาว ความสนใจของฉันอยู่ที่การพัฒนาของตะวันออกกลาง ตลาดเกิดใหม่ ถ่านหิน ข้าวสาลี และสินค้าเกษตรอื่นๆ
7 ปีของตลาดหุ้น การแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ โลหะมีค่า และประสบการณ์การซื้อขายและการวิเคราะห์อื่น ๆ โดยอาศัยปัจจัยพื้นฐาน การสนับสนุนทางเทคนิค มีอคติต่อตรรกะธุรกรรมจากบนลงล่าง โดยเน้นที่วัฏจักรมหภาคและการควบคุมความเสี่ยง การคาดการณ์เชิงทฤษฎีอุปสงค์และอุปทานอเนกประสงค์ การเปลี่ยนแปลงของราคา สร้างสมดุลระหว่างผลกระทบของธุรกรรม การกระจายชิปและอารมณ์ตลาด และคงที่
อัปเดตล่าสุด
สร้างทัศนคติการลงทุนที่ดี
วอร์เรน บัฟเฟตต์ได้รับเกียรติให้เป็นหนึ่งในนักลงทุนที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ ปรัชญาการลงทุนของเขาประกอบด้วยการสร้างกรอบความคิดระยะยาว ขจัดญาณรบกวนของตลาด ไม่เก็งกำไร และเน้นย้ำว่าการลงทุนต้องมีมีจิตใจที่มั่นคงและเป้าหมายที่ชัดเจน
คำเตือนเกี่ยวกับความเสี่ยงในการลงทุนในตลาดหุ้นฮ่องกง
แม้ว่าระบบกฎหมายและกรอบการกำกับดูแลในฮ่องกงจะค่อนข้างสมบูรณ์ แต่ตลาดหุ้นยังคงเผชิญกับความเสี่ยงและความท้าทายพิเศษหลายประการ เช่น ความสัมพันธ์ระหว่าง HKD และ USD นักลงทุนต่างชาติอาจเผชิญกับความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยน ความผันผวนของนโยบายและสถานการณ์ทางเศรษฐกิจของจีนแผ่นดินใหญ่อาจส่งผลกระทบต่อตลาดหุ้นฮ่องกงด้วย
โครงสร้างต้นทุนและภาษีเมื่อลงทุนในหุ้นฮ่องกง
ต้นทุนการซื้อขายในตลาดหุ้นฮ่องกง ได้แก่ ค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรมหุ้น ค่าอากรแสตมป์ ค่าธรรมเนียมการชำระบัญชี ฯลฯ สำหรับนักลงทุนต่างชาติอาจมีค่าธรรมเนียมการแปลงสกุลเงินเพิ่มเติมเป็นดอลลาร์ฮ่องกงและภาษีอื่น ๆ ตามข้อบังคับท้องถิ่น
การวิเคราะห์อุตสาหกรรมฮ่องกง:อุตสาหกรรมสินค้าอุปโภคบริโภคที่ไม่จำเป็น
อุตสาหกรรมสินค้าอุปโภคบริโภคที่ไม่จำเป็นของฮ่องกง ได้แก่ รถยนต์ การศึกษา การท่องเที่ยว การจัดเลี้ยง เครื่องแต่งกาย และภาคส่วนอื่นๆ อีกมากมาย จากบริษัทจดทะเบียน 643 แห่งนั้น 35% เป็นบริษัทในจีนแผ่นดินใหญ่และคิดเป็น 65% ของมูลค่าตลาดทั้งหมด ดังนั้นอุตสาหกรรมนี้จึงได้รับอิทธิพลอย่างลึกซึ้งจากเศรษฐกิจจีน
ฮ่องกง,ประเทศจีน
นครโฮจิมินห์, เวียดนาม
ดูไบ, UAE
ลากอส, ไนจีเรีย
ไคโร, อียิปต์
ไวท์เลเบล
Data API
ปลั๊กอินเว็บไซต์
โครงการพันธมิตร
ดูผลการค้นหาทั้งหมด
ไม่มีข้อมูล
ไม่ได้ล็อกอิน
เข้าสู่ระบบเพื่อเข้าถึงฟังก์ชั่นเพิ่มเติม
สมาชิก FastBull
ยังไม่ได้เปิด
สมัคร
เข้าสู่ระบบ
ลงทะเบียน
ฮ่องกง,ประเทศจีน
นครโฮจิมินห์, เวียดนาม
ดูไบ, UAE
ลากอส, ไนจีเรีย
ไคโร, อียิปต์
ไวท์เลเบล
Data API
ปลั๊กอินเว็บไซต์
โครงการพันธมิตร
23 ม.ค.--รอยเตอร์
ดัชนี S&P 500 ของตลาดหุ้นสหรัฐปิดพุ่งขึ้น 1.23% สู่สถิติระดับปิดสูงสุดใหม่ที่ 4,839.81 ในวันศุกร์ที่ 19 ม.ค. ซึ่งถือเป็นการทำสถิติระดับปิดสูงสุดใหม่ได้เป็นครั้งแรกในรอบ 2 ปี โดยสามารถทำลายสถิติระดับปิดสูงสุดเดิมที่ 4,796.56 ซึ่งเคยทำไว้ในวันที่ 3 ม.ค. 2022 โดยการทำสถิติสูงสุดใหม่ได้ในครั้งนี้ ถือเป็นการยืนยันว่าดัชนี S&P 500 อยู่ในภาวะตลาดกระทิงนับตั้งแต่ดัชนีปิดตลาดที่จุดต่ำสุดของวัฏจักรในวันที่ 12 ต.ค. 2022 เป็นต้นมา โดยดัชนีเคยดิ่งลง 25% จากสถิติระดับปิดสูงสุดในเดือนม.ค. 2022 สู่จุดต่ำสุดของเดือนต.ค. 2022 และการแตะจุดต่ำสุดของเดือนนั้นก็ถือเป็นจุดสิ้นสุดของภาวะตลาดหมี นอกจากนี้ ดัชนี S&P 500 ก็ปิดปรับขึ้น 0.22% สู่ 4,850.43 ในวันจันทร์ที่ 22 ม.ค. ซึ่งถือเป็นการทำสถิติระดับปิดสูงสุดใหม่ได้เป็นวันที่ 2 ติดต่อกันด้วย ทั้งนี้ ดัชนีพุ่งขึ้นมาแล้วราว 35% ในภาวะกระทิงรอบนี้ ซึ่งรวมถึงการพุ่งขึ้น 24% ในปี 2023 ในขณะที่ดัชนีได้รับแรงหนุนจากปัจจัยหลายประการ ซึ่งรวมถึงการชะลอตัวลงของอัตราเงินเฟ้อ, การที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) หันมาส่งสัญญาณแบบสายพิราบในเดือนธ.ค. 2023 และการพุ่งขึ้นของหุ้นกลุ่มชิปท่ามกลางการคาดการณ์ในทางบวกต่อธุรกิจปัญญาประดิษฐ์ (AI)
ดัชนี S&P 500 อยู่ในภาวะตลาดกระทิงเป็นเวลาราว 85% ของช่วงเวลาทั้งหมดนับตั้งแต่ปี 1950 เป็นต้นมา โดยสถิติระบุว่า ดัชนีพุ่งขึ้นเฉลี่ยเกือบ 260% ในภาวะตลาดกระทิงแต่ละรอบใน 6 รอบล่าสุดที่เกิดขึ้นในช่วง 40-50 ปีที่ผ่านมา ทั้งนี้ ดัชนี S&P 500 พุ่งขึ้น 125.6% ในภาวะตลาดกระทิงที่สิ้นสุดในปี 1980, ทะยานขึ้น 228.8% ในภาวะตลาดกระทิงที่สิ้นสุดในปี 1987, พุ่งขึ้น 582.1% ในภาวะกระทิงที่สิ้นสุดในปี 2000, ทะยานขึ้น 101.5% ในภาวะกระทิงที่สิ้นสุดในปี 2007, พุ่งขึ้น 400.5% ในภาวะกระทิงที่สิ้นสุดในปี 2020 และพุ่งขึ้น 114.4% ในภาวะกระทิงที่สิ้นสุดในปี 2022
สถิติจากในอดีตแสดงให้เห็นว่า หลังจากตลาดหุ้นสหรัฐพุ่งขึ้นแตะสถิติสูงสุดใหม่ ตลาดหุ้นก็มักจะทะยานขึ้นต่อไปอีกในระยะยาวด้วย โดยในสถานการณ์ 14 ครั้งล่าสุดที่ดัชนี S&P 500 พุ่งขึ้นแตะสถิติสูงสุดใหม่ได้เป็นครั้งแรกในรอบกว่า 1 ปีนั้น มีอยู่ 13 ครั้งที่ดัชนียังคงทะยานขึ้นต่อไปอีกในช่วง 12 เดือนต่อมา และให้ผลตอบแทนเฉลี่ย 13.9% ในช่วง 12 เดือนนั้น ซึ่งถือว่าสูงกว่าในสถานการณ์ปกติ เพราะว่าดัชนี S&P 500 ให้ผลตอบแทนเฉลี่ยเพียง 7.5% ต่อปีนับตั้งแต่ปี 1928 เป็นต้นมา
การพุ่งขึ้นของดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐในภาวะกระทิงรอบนี้ได้รับแรงหนุนจากการทะยานขึ้นของหุ้นบริษัทขนาดยักษ์ในกลุ่มเทคโนโลยี ซึ่งรวมถึงหุ้นบริษัทไมโครซอฟท์, เทสลา และแอลฟาเบท ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของกูเกิล โดยหุ้นกลุ่มนี้ครองสัดส่วน 62.18% ของผลตอบแทนทั้งหมดของดัชนี S&P 500 ในปี 2023 ทั้งนี้ ดัชนีหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีของสหรัฐพุ่งขึ้นมาแล้วกว่า 70% นับตั้งแต่ดัชนี S&P 500 แตะจุดต่ำสุดของเดือนต.ค. 2022 ส่วนดัชนีหุ้นกลุ่มบริการการสื่อสารของสหรัฐ ซึ่งครอบคลุมหุ้นบริษัทเมตา แพลตฟอร์มส์ และบริษัทเน็ตฟลิกซ์ ทะยานขึ้นมาแล้วเกือบ 60% ในช่วงเวลาเดียวกัน
กระแสความนิยมใน AI ส่งผลให้หุ้นเอ็นวิเดียซึ่งเป็นบริษัทผู้ผลิตชิปที่มีมูลค่าสูงที่สุดในโลก มีมูลค่าพุ่งขึ้นเป็น 3 เท่าในปี 2023 และหุ้นเอ็นวิเดียก็ยังคงทะยานขึ้นต่อไปในปี 2024 และพุ่งขึ้นทำสถิติสูงสุดในวันจันทร์ ทั้งนี้ ดัชนี Russell 2000 สำหรับหุ้นบริษัทขนาดเล็กของสหรัฐพุ่งขึ้นในเดือนธ.ค. แต่ดิ่งลงมาแล้ว 4.1% จากช่วงต้นปี 2024 ในขณะที่ดัชนี S&P 500 พุ่งขึ้น 1.4% จากช่วงต้นปี 2024 และสิ่งนี้แสดงให้เห็นว่า บริษัทขนาดยักษ์ยังคงเป็นกลุ่มบริษัทที่ได้รับผลประโยชน์หลักจากภาวะตลาดกระทิงในรอบนี้--จบ--
Eikon source text
(รอยเตอร์ โดย จิตร โพธิ์แก้ว แปลและเรียบเรียง)
((jit.phokaew@thomsonreuters.com; โทร 08-7689-6043;
กรุงเทพฯ--12 ธ.ค.--รอยเตอร์
เยนดิ่งลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐในวันจันทร์เป็นวันที่ 2 ติดต่อกัน หลังจากที่เคยพุ่งขึ้นอย่างแข็งแกร่งในสัปดาห์ที่แล้ว โดยเยนได้รับแรงหนุนในวันพฤหัสบดีที่ 7 ธ.ค.จากการคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) จะปรับลดการใช้นโยบายการเงินแบบสายพิราบ หลังจากนายคาสุโอะ อุเอดะ ผู้ว่าการธนาคารกลางญี่ปุ่น กล่าวในวันพฤหัสบดีว่า บีโอเจมีทางเลือกว่าจะตั้งเป้าหมายไปที่อัตราดอกเบี้ยตัวใด เมื่อใดก็ตามที่บีโอเจปรับอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นให้ออกจากระดับติดลบแล้ว อย่างไรก็ดี เยนดิ่งลงในวันจันทร์ หลังจากสำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า เจ้าหน้าที่บีโอเจยังไม่มีหลักฐานมากพอที่จะแสดงให้เห็นว่า ค่าแรงในญี่ปุ่นปรับขึ้นในระดับที่แข็งแกร่งพอที่จะสนับสนุนให้บีโอเจยุตินโยบายการเงินแบบผ่อนคลายมากเป็นพิเศษในการประชุมวันที่ 18-19 ธ.ค. Eikon source text
ดัชนีดอลลาร์เมื่อเทียบกับตะกร้าสกุลเงินอยู่ที่ 104.06 ในช่วงท้ายตลาดวันจันทร์ โดยแข็งค่าขึ้นจาก 103.98 ในช่วงท้ายตลาดวันศุกร์
ดอลลาร์/เยนอยู่ที่ 146.16 เยนในช่วงท้ายตลาดวันจันทร์ โดยพุ่งขึ้นราว 0.85% จากระดับปิดตลาดวันศุกร์ที่ 144.93 เยน หลังจากทะยานขึ้นแตะจุดสูงสุดของวันจันทร์ที่ 146.58 เยน และออกห่างจากระดับ 141.70 เยนที่ทำไว้ในระหว่างช่วงการซื้อขายวันพฤหัสบดี ซึ่งถือเป็นจุดต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 7 ส.ค. หรือจุดต่ำสุดรอบ 4 เดือน
ยูโร/ดอลลาร์ทรงตัวอยู่ที่ 1.0761 ดอลลาร์ในช่วงท้ายวันจันทร์ ซึ่งเท่ากับระดับในช่วงท้ายวันศุกร์ และเทียบกับจุดต่ำสุดรอบ 24 วันที่ทำไว้ในวันศุกร์ที่ 1.0724 ดอลลาร์
ตลาดหุ้นสหรัฐปรับขึ้นเล็กน้อยในวันจันทร์ และดัชนีตลาดหุ้นสำคัญทั้ง 3 ดัชนีสามารถปิดตลาดที่ระดับปิดสูงสุดใหม่สำหรับปีนี้ ในขณะที่นักลงทุนรอดูตัวเลขดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของสหรัฐที่จะได้รับการรายงานออกมาในวันอังคาร, รอดูดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ของสหรัฐที่จะได้รับการรายงานออกมาในวันพุธ และรอดูผลการประชุมกำหนดนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันพุธ เพราะปัจจัยเหลานี้จะส่งผลกระทบเป็นอย่างมากต่อการคาดการณ์แนวโน้มอัตราดอกเบี้ยสหรัฐ โดยนักลงทุนคาดการณ์ในตอนนี้ว่า มีโอกาสเกือบ 100% เต็มที่เฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ 5.25-5.50% ในการประชุมวันที่ 12-13 ธ.ค., คาดว่ามีโอกาสราว 43% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอย่างน้อย 0.25% ในการประชุมวันที่ 19-20 มี.ค. 2024 และคาดว่ามีโอกาสเกือบ 75% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงภายในเดือนพ.ค. 2024 ทั้งนี้ ดัชนีหุ้นกลุ่มเซมิคอนดักเตอร์ของสหรัฐพุ่งขึ้น 3.4% ในวันจันทร์ และสามารถปิดตลาดที่ระดับปิดสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 5 ม.ค. 2022 โดยได้รับแรงหนุนจากหุ้นบริษัทบรอดคอมซึ่งเป็นผู้ผลิตชิปที่พุ่งขึ้น 8.99% หลังจากซิตี้กรุ๊ปกลับมาจัดอันดับความน่าลงทุนของหุ้นบรอดคอม โดยจัดไว้ที่ "buy" ทางด้านหุ้นซิกนาซึ่งเป็นบริษัทประกันสุขภาพทะยานขึ้น 16.68% ในวันจันทร์ หลังจากแหล่งข่าวกล่าวว่า ซิกนายุติความพยายามที่จะเจรจาต่อรองเรื่องการเข้าซื้อบริษัทฮูมานาที่เป็นคู่แข่ง และซิกนาประกาศแผนซื้อคืนหุ้นขนาด 1.0 หมื่นล้านดอลลาร์ Eikon source text
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดบวกขึ้น 0.43% สู่ 36,404.93 โดยได้รับแรงหนุนจากหุ้นบริษัทไนกี้ที่พุ่งขึ้น 2.33% หลังจากซิตี้กรุ๊ปปรับขึ้นอันดับความน่าลงทุนของหุ้นไนกี้สู่ "buy" จาก "neutral"
ดัชนี S&P 500 ปิดปรับขึ้น 0.39 % สู่ 4,622.44
ดัชนี Nasdaq ปิดปรับขึ้น 0.20 % สู่ 14,432.49
ราคาน้ำมันดิบในตลาดล่วงหน้า NYMEX ปรับขึ้นเพียงเล็กน้อยในวันจันทร์ ในขณะที่มาตรการปรับลดปริมาณการผลิตน้ำมันของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมันและชาติพันธมิตร (โอเปกพลัส) ไม่สามารถชดเชยความกังวลของนักลงทุนที่มีต่อภาวะน้ำมันดิบล้นตลาด และความกังวลที่ว่าอุปสงค์เชื้อเพลิงจะชะลอการเติบโตลงในปีหน้า อย่างไรก็ดี ราคาน้ำมันได้รับแรงหนุนจากปัจจัยทางเทคนิค และจากข่าวที่ว่า กระทรวงพลังงานของสหรัฐประกาศในวันศุกร์ว่า ทางกระทรวงต้องการจะซื้อน้ำมันดิบ 3 ล้านบาร์เรลเพื่อนำมาเติมในคลังสำรองปิโตรเลียมทางยุทธศาสตร์ (SPR) โดยเป็นน้ำมันที่จะจัดส่งในเดือนมี.ค. 2024 เพื่อเป็นการฉวยโอกาสเติมน้ำมันเข้า SPR ในช่วงที่ราคาน้ำมันอยู่ในระดับต่ำในตอนนี้ ทั้งนี้ ถึงแม้กลุ่มโอเปกพลัสประกาศว่าจะปรับลดปริมาณอุปทานน้ำมันลง 2.2 ล้านบาร์เรลต่อวันในไตรมาสแรกของปีหน้า นักลงทุนก็ยังคงไม่มั่นใจว่ากลุ่มโอเปกพลัสจะปฏิบัติตามมาตรการดังกล่าวมากน้อยเพียงใด ในขณะที่มีการคาดการณ์กันว่า ประเทศนอกโอเปกจะปรับเพิ่มปริมาณการผลิตน้ำมัน ซึ่งจะส่งผลให้เกิดภาวะอุปทานน้ำมันล้นตลาดในปีหน้า Eikon source text
ราคาน้ำมันดิบสหรัฐส่งมอบเดือนม.ค.ขยับขึ้น 9 เซนต์ หรือ 0.1% มาปิดตลาดที่ 71.32 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนก.พ.ที่ตลาดกรุงลอนดอนปรับขึ้น 19 เซนต์ หรือ 0.3% มาปิดตลาดที่ 76.03 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล โดยทั้งราคาน้ำมันดิบสหรัฐและเบรนท์ต่างก็เพิ่งพุ่งขึ้นกว่า 2% ในวันศุกร์ แต่ปิดตลาดสัปดาห์ที่แล้วในแดนลบเป็นสัปดาห์ที่ 7 ติดต่อกัน ซึ่งถือเป็นการปิดตลาดรายสัปดาห์ในแดนลบที่ยาวนานที่สุดนับตั้งแต่ปี 2018 โดยได้รับแรงกดดันจากความกังวลเรื่องอุปทานน้ำมันล้นตลาด
ราคาทองสปอตที่ตลาดสหรัฐดิ่งลง 22.09 ดอลลาร์ หรือ 1.10% สู่ 1,981.30 ดอลลาร์ต่อออนซ์ในช่วงท้ายตลาดวันจันทร์ หลังจากรูดลงแตะ 1,975.70 ดอลลาร์ในระหว่างวัน ซึ่งถือเป็นจุดต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 20 พ.ย. หรือจุดต่ำสุดรอบ 3 สัปดาห์ โดยราคาทองได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งเป็นปัจจัยที่ส่งผลให้ทองมีราคาแพงขึ้นสำหรับผู้ถือครองสกุลเงินอื่น ๆ นอกจากนี้ นักลงทุนก็รอดูตัวเลขอัตราเงินเฟ้อของสหรัฐที่จะออกมาในวันอังคาร และรอดูผลการประชุมกำหนดนโยบายของธนาคารกลางหลายแห่งในสัปดาห์นี้ด้วย ทั้งนี้ นายจิม วิคคอฟ นักวิเคราะห์ของบริษัทคิทโค เมทัลส์กล่าวว่า "ปัจจัยทางเทคนิคในระยะใกล้ของราคาทองตกต่ำลงในช่วงนี้ และถ้าหากสหรัฐรายงานดัชนี CPI ที่สูงเกินคาดในวันอังคาร ปัจจัยดังกล่าวก็อาจจะกระตุ้นให้มีแรงเทขายทองออกมา" Eikon source text
--จบ--
(รอยเตอร์ โดย จิตร โพธิ์แก้ว แปลและเรียบเรียง)
((jit.phokaew@thomsonreuters.com; โทร 08-7689-6043;
ตลาดหุ้นสหรัฐปิดพุ่งขึ้นในวันนี้ ขณะที่การพุ่งขึ้นของหุ้นกลุ่มธนาคาร และการดีดตัวขึ้นของหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีช่วยหนุนการพุ่งขึ้นของตลาดโดยรวม หลังจากตลาดหุ้นวอลล์สตรีททำสถิติร่วงติดต่อกันนานที่สุดนับตั้งแต่ยุคดอทคอมดิ่งลงเมื่อกว่า 20 ปีก่อน และดัชนีหลักทั้งสามตัวพุ่งขึ้น 1.6-2.0% ขณะที่ปัจจัยหนุนใหญ่สุดมาจากการดีดตัวขึ้นอย่างมากของหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี อาทิ หุ้นแอปเปิล และหุ้นไมโครซอฟท์ คอร์ป ส่วนหุ้นกลุ่มธนาคารพุ่งขึ้น 5.1% หลังจากเจพีมอร์แกน เชสได้ปรับเพิ่มคาดการณ์รายได้จากดอกเบี้ยในปีปัจจุบัน
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดพุ่งขึ้น 618.34 จุด หรือ 1.98% ที่ 31,880.24, ดัชนี S&P 500 ปิดพุ่งขึ้น 72.39 จุด หรือ 1.85% สู่ระดับ 3,973.75 และดัชนี Nasdaq ปิดพุ่งขึ้น 180.65 จุด หรือ 1.59% สู่ 11,535.27
นายชัค คาร์ลสัน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารจากฮอไรซัน อินเวสเมนต์ เซอร์วิสเซสกล่าวว่า "ดูเหมือนว่า ตลาดคลายกังวลเรื่องเงินเฟ้อ และเฟดจะสามารถทำให้เศรษฐกิจชะลอตัวลงอย่างนุ่มนวลได้ แต่แนวโน้มก็ยังคงอยู่ในช่วงขาลง"
เฟดจะเปิดเผยรายงานการประชุมนโยบายครั้งล่าสุดในวันพุธนี้ ขณะที่ข้อมูลเศรษฐกิจในสัปดาห์นี้อาจจะหนุนแนวคิดที่ว่า อัตราเงินเฟ้อแตะจุดสูงสุดแล้วในเดือนมี.ค. และจะแสดงให้เห็นว่า ราคาที่ระดับสูงส่งผลต่อกำลังซื้อของผู้บริโภคแล้วหรือไม่
ฤดูแถลงผลประกอบการประจำไตรมาสแรกเกือบจะเสร็จสิ้นแล้ว โดยบริษัท 474 แห่งในดัชนี S&P 500 แถลงผลประกอบการแล้ว ซึ่ง 78% ในจำนวนดังกล่าวมีผลประกอบการดีเกินคาด--จบ--
(รอยเตอร์ โดย เสาวณีย์ เอกปัญญาชัย แปลและเรียบเรียง)
ไวท์เลเบล
Data API
ปลั๊กอินเว็บไซต์
เครื่องมือออกแบบโปสเตอร์
โครงการพันธมิตร
ความเสี่ยงของการสูญเสียในการซื้อขายสินทรัพย์ทางการเงิน เช่น หุ้น FX สินค้าโภคภัณฑ์ ฟิวเจอร์ส พันธบัตร ETFs หรือเงินดิจิทัลอาจมีมาก คุณอาจสูญเสียเงินทุนทั้งหมดที่คุณฝากไว้กับโบรกเกอร์ของคุณ ดังนั้น คุณควรพิจารณาอย่างรอบคอบว่าการซื้อขายดังกล่าวเหมาะสมกับคุณหรือไม่ในสถานการณ์และทรัพยากรทางการเงินของคุณ
ไม่ควรตัดสินใจลงทุนโดยไม่ได้ดำเนินการตรวจสอบสถานะอย่างละเอียดถี่ถ้วนด้วยตัวเองหรือปรึกษากับที่ปรึกษาทางการเงินของคุณ เนื้อหาเว็บของเราอาจไม่เหมาะกับคุณเนื่องจากเราไม่ทราบเงื่อนไขทางการเงินและความต้องการในการลงทุนของคุณ ข้อมูลทางการเงินของเราอาจมีความล่าช้าหรือมีความไม่ถูกต้อง ดังนั้นคุณควรรับผิดชอบอย่างเต็มที่ต่อการตัดสินใจซื้อขายและการลงทุนของคุณ บริษัทจะไม่รับผิดชอบต่อการสูญเสียเงินทุนของคุณ
หากไม่ได้รับอนุญาตจากเว็บไซต์ คุณจะไม่สามารถคัดลอกกราฟิก ข้อความ หรือเครื่องหมายการค้าของเว็บไซต์ได้ สิทธิ์ในทรัพย์สินทางปัญญาในเนื้อหาหรือข้อมูลที่รวมอยู่ในเว็บไซต์นี้เป็นของผู้ให้บริการและผู้ค้าแลกเปลี่ยน