ตลาดเงิน Emerging Asia:บาท/ดอลลาร์อ่อนค่า 0.13% มาที่ 34.755

• สกุลเงินตลาดเกิดใหม่ในเอเชียปรับตัวขึ้นลงแตกต่างกันในวันนี้ ขณะที่นักลงทุนประเมินสถานการณ์ตึงเครียดระหว่างรัสเซีย และชาติตะวันตก

• นักลงทุนพากันเข้าซื้อสินทรัพย์ปลอดภัย และเทขายสินทรัพย์ตลาดเกิดใหม่ที่มีความเสี่ยงจากความวิตกเกี่ยวกับความขัดแย้งที่รุนแรงขึ้นในยูเครน

• นักวิเคราะห์จากดีบีเอสกล่าวว่า "ตลาดต้องจับตาความรุนแรงขึ้นที่อันตรายในสงครามยูเครน-รัสเซีย ซึ่งเกิดขึ้นจากการสู้รบกันมากขึ้นจากทั้งสองฝ่าย, การปรับเปลี่ยนนโยบายเชิงกลยุทธ์ และการมีส่วนร่วมของนานาประเทศมากขึ้น"

• รูเปียห์อยู่ที่ระดับต่ำสุดในรอบกว่า 3 เดือน ขณะที่ธนาคารกลางอินโดนีเซียระบุว่า มีโอกาสน้อยลงที่ธนาคารกลางจะลดอัตราดอกเบี้ยลงอีก หลังจากที่มีมติคงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเมื่อวานนี้

  อัตราแลกเปลี่ยน ณ เวลา 11.40 น.ตามเวลาไทย

Eikon source text

21 พ.ย.--รอยเตอร์

• บาท/ดอลลาร์สหรัฐขยับลง 0.04% สู่ 34.640 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐในการซื้อขายช่วงเช้าวันนี้ที่ตลาดเอเชีย ในขณะที่รูเปียห์ของอินโดนีเซียดิ่งลง 0.47% สู่ 15,935 รูเปียห์ต่อดอลลาร์ในช่วงเช้าวันนี้ ซึ่งส่งผลให้รูเปียห์ถือเป็นสกุลเงินเอเชียที่รูดลงมากที่สุดในช่วงเช้าวันนี้

อัตราแลกเปลี่ยนเทียบดอลลาร์สหรัฐ ณ เวลา 09.01 น. ตามเวลาไทย

--จบ--

Eikon source text

(รอยเตอร์ โดย จิตร โพธิ์แก้ว แปลและเรียบเรียง)

((jit.phokaew@thomsonreuters.com; โทร 08-7689-6043;

กรุงเทพฯ--21 พ.ย.--รอยเตอร์

• บาท/ดอลลาร์ เช้านี้แข็งค่าขึ้น โดยได้แรงหนุนจากการปรับตัวขึ้นของราคาทองคำ หลังนักลงทุนยังต้องการถือทองคำเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย จากความไม่แน่นอนของสถานการณ์สงครามรัสเซีย-ยูเครน

• บาท/ดอลลาร์ ล่าสุด อยู่ที่ 34.63/64 จาก 34.70 เมื่อวาน โดยดีลเลอร์ คาดว่า เงินบาทวันนี้จะมีแนวต้านที่ 34.50 และแนวรับที่ 34.75

• เมื่อวันที่ 14 พ.ย. ค่าเงินบาทไปแตะระดับอ่อนค่าสุดในรอบ 3 เดือน ที่ 35.13 ต่อดอลลาร์ ขณะที่ตั้งแต่ต้นปีนี้เงินบาทอ่อนค่าลงราว 1.5%

• ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้น ขณะที่นักลงทุนพยายามประเมินแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) และรอดูนโยบายต่างๆ ของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐ

• นักลงทุนคาดว่า มีโอกาส 53.2% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25% สู่ 4.25-4.50% ในการประชุมวันที่ 17-18 ธ.ค. ซึ่งลดลงจากโอกาส 82.5% ที่เคยคาดไว้เมื่อหนึ่งสัปดาห์ก่อน

• นักเศรษฐศาสตร์ปรับลดการคาดการณ์เรื่องแนวโน้มในการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปีหน้า โดยเป็นผลจากความเสี่ยงที่นโยบายของนายทรัมป์อาจจะส่งผลให้อัตราเงินเฟ้อปรับสูงขึ้น--จบ--

• ตลาดสกุลเงินตลาดเกิดใหม่ในเอเชียมีการซื้อขายอย่างระมัดระวังในวันนี้ก่อนการแถลงผลประกอบการของบริษัทเอ็นวิเดีย และความขัดแย้งที่รุนแรงขึ้นระหว่างรัสเซียและยูเครนทำให้เทรดเดอร์ปลีกตัวอยู่นอกตลาด

• นายจุนวุม คิม เทรดเดอร์จากยูบีเอส เวลธ์ แมเนจเมนต์กล่าวว่า ทันทีที่เอ็นวิเดียประกาศผลประกอบการ ก็จะมีความชัดเจนมากขึ้นว่า สงครามของรัสเซียในยูเครนที่รุนแรงขึ้นนั้นกำลังมีผลกระทบอย่างไรต่อตลาด และผลประกอบการที่เป็นบวกจากเอ็นวิเดียจะกระตุ้นตลาดหุ้นวอลล์สตรีท ซึ่งอาจชะลอการแข็งค่าของดอลลาร์

• การอ่อนค่าของดอลลาร์จะช่วยหนุนสกุลเงินเอเชีย ขณะที่ผลประกอบการที่เอื้อหนุนจากเอ็นวิเดียจะเป็นผลบวกต่อซัพพลายเออร์จากเกาหลีใต้ และไต้หวัน

• นักลงทุนกำลังรอดูการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางอินโดนีเซียในวันนี้ ซึ่งคาดว่าจะคงอัตราดอกเบี้ย

  อัตราแลกเปลี่ยน ณ เวลา 10.57 น.ตามเวลาไทย

Eikon source text

• บาท/ดอลลาร์แข็งค่า 0.03% มาที่ 34.505 ขณะที่ริงกิตแข็งค่ามากที่สุดท่ามกลางสกุลเงินตลาดเกิดใหม่ในเอเชียอื่นๆที่ทรงตัวในช่วงเช้าวันนี้

อัตราแลกเปลี่ยนเทียบดอลลาร์สหรัฐ ณ เวลา 9.03 น.

Eikon source text

((saowanee.ekpunyachai@thomsonreuters.com; โทร 0-2080-2314; Reuters Messaging: saowanee.ekpunyachai.thomsonreuters.net))

กรุงเทพฯ--20 พ.ย.--รอยเตอร์

• บาท/ดอลลาร์ เช้านี้แตะระดับแข็งค่าสุดในรอบกว่าสัปดาห์ที่ 34.47 โดยได้แรงหนุนจากการขายทำกำไรดอลลาร์ในระยะสั้น รวมถึงการปรับขึ้นของราคาทองคำ จากความกังวสงครามรัสเซีย-ยูเครน

• บาท/ดอลลาร์ ล่าสุด อยู่ที่ 34.505/515 จาก 34.555 เมื่อวาน โดยดีลเลอร์คาดว่า เงินบาทวันนี้จะมีแนวต้านที่ 34.35 และแนวรับที่ 34.65

• เมื่อวันที่ 14 พ.ย. ค่าเงินบาทไปแตะระดับอ่อนค่าสุดในรอบ 3 เดือน ที่ 35.13 ต่อดอลลาร์ ขณะที่ตั้งแต่ต้นปีนี้เงินบาทอ่อนค่าลงราว 1.1%

• แต่นักวิเคราะห์มองว่า ดอลลาร์ยังมีแรงหนุนจากการคาดการณ์มากขึ้นว่า ธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) อาจชะลอแนวทางการลดอัตราดอกเบี้ย และจากความวิตกว่า นโยบายต่างๆของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐ อาจกระตุ้นเงินเฟ้อขึ้นมาอีกครั้ง

• นายเจฟฟรี ชมิดท์ ประธานเฟดสาขาแคนซัสซิตี้ กล่าวว่า ยังคงไม่แน่นอนว่า อัตราดอกเบี้ยจะสามารถปรับลดลงได้มากแค่ไหน แต่การลดดอกเบี้ยที่ผ่านมาบ่งชี้ถึงความเชื่อมั่นว่า เงินเฟ้อกำลังปรับตัวไปสู่เป้าหมาย 2%

• เครื่องมือเฟดวอทช์ของซีเอ็มอีพบว่า ตลาดปรับตัวรับโอกาส 59.1% ที่เฟดจะลดดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมในเดือนหน้า ลดลงจากโอกาส 76.8% ในเดือนที่แล้ว--จบ--