ตลาด
ข่าวสาร
การวิเคราะห์
ผู้ใช้
24x7
ปฏิทินเศรษฐกิจ
แหล่งเรียนรู้
ข้อมูล
- ชื่อ
- ค่าล่าสุด
- ครั้งก่อน
ค:--
ค: --
ค: --
ค:--
ค: --
ค: --
ค:--
ค: --
ค:--
ค: --
ค:--
ค: --
ค: --
ค:--
ค: --
ค: --
ค:--
ค: --
ค: --
ค:--
ค: --
ค: --
ค:--
ค: --
ค: --
ค:--
ค: --
ค: --
ค:--
ค: --
ค: --
ค:--
ค: --
ค: --
ค:--
ค: --
ค: --
ค:--
ค: --
ค: --
ค:--
ค: --
ค: --
ค:--
ค: --
ค: --
ค:--
ค: --
ค: --
ค:--
ค: --
ค: --
ค:--
ค: --
ค: --
ค:--
ค: --
ค:--
ค: --
ค: --
ค:--
ค: --
ค: --
ค:--
ค: --
ค: --
ค:--
ค: --
ค: --
ค:--
ค: --
ค: --
ค:--
ค: --
ค: --
ค:--
ค: --
ค: --
ค:--
ค: --
ค: --
ค:--
ค: --
ค: --
ค:--
ค: --
ค: --
--
ค: --
ค: --
--
ค: --
ค: --
--
ค: --
ค: --
--
ค: --
ค: --
--
ค: --
ค: --
--
ค: --
ค: --
--
ค: --
ค: --
--
ค: --
ค: --
--
ค: --
ค: --
--
ค: --
ค: --
--
ค: --
ค: --
--
ค: --
ค: --
--
ค: --
ค: --
--
ค: --
ค: --
--
ค: --
ค: --
--
ค: --
ค: --
--
ค: --
ค: --
--
ค: --
ค: --
--
ค: --
ค: --
--
ค: --
ค: --
--
ค: --
ค: --
--
ค: --
ค: --
--
ค: --
ค: --
--
ค: --
ค: --
--
ค: --
ค: --
--
ค: --
ค: --
--
ค: --
ค: --
--
ค: --
ค: --
ไม่มีข้อมูลที่ตรงกัน
ทัศนคติล่าสุด
ทัศนคติล่าสุด
หัวข้อยอดนิยม
เพื่อเรียนรู้การเปลี่ยนแปลงของตลาดอย่างรวดเร็วและติดตามตลาดโฟกัสใน 15 นาที
ในโลกของมนุษยชาติ จะไม่มีคำกล่าวใด ๆ ที่ไม่มีจุดยืนใด ๆ หรือคำพูดใด ๆ ที่ไม่มีจุดประสงค์ใด ๆ
อัตราเงินเฟ้อ อัตราแลกเปลี่ยน และเศรษฐกิจเป็นตัวกำหนดการตัดสินใจเชิงนโยบายของธนาคารกลาง ทัศนคติและคำพูดของเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางยังมีอิทธิพลต่อการกระทำของเทรดเดอร์ในตลาดอีกด้วย
เงินทำให้โลกหมุนไป และสกุลเงินเป็นสินค้าถาวร ตลาดฟอเร็กซ์เต็มไปด้วยความประหลาดใจและความคาดหวัง
คอลัมนิสต์ยอดนิยม
เพลิดเพลินกับกิจกรรมที่น่าตื่นเต้น ที่นี่ที่ FastBull
ข่าวด่วนล่าสุดและเหตุการณ์ทางการเงินทั่วโลก
ฉันมีประสบการณ์ 5 ปีในการวิเคราะห์ทางการเงิน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านการพัฒนามหภาคและการตัดสินแนวโน้มระยะกลางและระยะยาว ความสนใจของฉันอยู่ที่การพัฒนาของตะวันออกกลาง ตลาดเกิดใหม่ ถ่านหิน ข้าวสาลี และสินค้าเกษตรอื่นๆ
7 ปีของตลาดหุ้น การแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ โลหะมีค่า และประสบการณ์การซื้อขายและการวิเคราะห์อื่น ๆ โดยอาศัยปัจจัยพื้นฐาน การสนับสนุนทางเทคนิค มีอคติต่อตรรกะธุรกรรมจากบนลงล่าง โดยเน้นที่วัฏจักรมหภาคและการควบคุมความเสี่ยง การคาดการณ์เชิงทฤษฎีอุปสงค์และอุปทานอเนกประสงค์ การเปลี่ยนแปลงของราคา สร้างสมดุลระหว่างผลกระทบของธุรกรรม การกระจายชิปและอารมณ์ตลาด และคงที่
อัปเดตล่าสุด
สร้างทัศนคติการลงทุนที่ดี
วอร์เรน บัฟเฟตต์ได้รับเกียรติให้เป็นหนึ่งในนักลงทุนที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ ปรัชญาการลงทุนของเขาประกอบด้วยการสร้างกรอบความคิดระยะยาว ขจัดญาณรบกวนของตลาด ไม่เก็งกำไร และเน้นย้ำว่าการลงทุนต้องมีมีจิตใจที่มั่นคงและเป้าหมายที่ชัดเจน
คำเตือนเกี่ยวกับความเสี่ยงในการลงทุนในตลาดหุ้นฮ่องกง
แม้ว่าระบบกฎหมายและกรอบการกำกับดูแลในฮ่องกงจะค่อนข้างสมบูรณ์ แต่ตลาดหุ้นยังคงเผชิญกับความเสี่ยงและความท้าทายพิเศษหลายประการ เช่น ความสัมพันธ์ระหว่าง HKD และ USD นักลงทุนต่างชาติอาจเผชิญกับความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยน ความผันผวนของนโยบายและสถานการณ์ทางเศรษฐกิจของจีนแผ่นดินใหญ่อาจส่งผลกระทบต่อตลาดหุ้นฮ่องกงด้วย
โครงสร้างต้นทุนและภาษีเมื่อลงทุนในหุ้นฮ่องกง
ต้นทุนการซื้อขายในตลาดหุ้นฮ่องกง ได้แก่ ค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรมหุ้น ค่าอากรแสตมป์ ค่าธรรมเนียมการชำระบัญชี ฯลฯ สำหรับนักลงทุนต่างชาติอาจมีค่าธรรมเนียมการแปลงสกุลเงินเพิ่มเติมเป็นดอลลาร์ฮ่องกงและภาษีอื่น ๆ ตามข้อบังคับท้องถิ่น
การวิเคราะห์อุตสาหกรรมฮ่องกง:อุตสาหกรรมสินค้าอุปโภคบริโภคที่ไม่จำเป็น
อุตสาหกรรมสินค้าอุปโภคบริโภคที่ไม่จำเป็นของฮ่องกง ได้แก่ รถยนต์ การศึกษา การท่องเที่ยว การจัดเลี้ยง เครื่องแต่งกาย และภาคส่วนอื่นๆ อีกมากมาย จากบริษัทจดทะเบียน 643 แห่งนั้น 35% เป็นบริษัทในจีนแผ่นดินใหญ่และคิดเป็น 65% ของมูลค่าตลาดทั้งหมด ดังนั้นอุตสาหกรรมนี้จึงได้รับอิทธิพลอย่างลึกซึ้งจากเศรษฐกิจจีน
ฮ่องกง,ประเทศจีน
นครโฮจิมินห์, เวียดนาม
ดูไบ, UAE
ลากอส, ไนจีเรีย
ไคโร, อียิปต์
ไวท์เลเบล
Data API
ปลั๊กอินเว็บไซต์
โครงการพันธมิตร
ดูผลการค้นหาทั้งหมด
ไม่มีข้อมูล
ไม่ได้ล็อกอิน
เข้าสู่ระบบเพื่อเข้าถึงฟังก์ชั่นเพิ่มเติม
สมาชิก FastBull
ยังไม่ได้เปิด
สมัคร
เข้าสู่ระบบ
ลงทะเบียน
ฮ่องกง,ประเทศจีน
นครโฮจิมินห์, เวียดนาม
ดูไบ, UAE
ลากอส, ไนจีเรีย
ไคโร, อียิปต์
ไวท์เลเบล
Data API
ปลั๊กอินเว็บไซต์
โครงการพันธมิตร
นิวยอร์ค--22 พ.ย.--รอยเตอร์
ดัชนีดอลลาร์สหรัฐเมื่อเทียบกับตะกร้าสกุลเงินพุ่งขึ้นแตะจุดสูงสุดรอบ 13 เดือนในระหว่างช่วงการซื้อขายวันพฤหัสบดี ในขณะที่นักลงทุนพิจารณาตัวเลขการจ้างงานและถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เพื่อใช้ในการประเมินแนวโน้มในการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ ทั้งนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานในวันพฤหัสบดีว่า ยอดผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในสหรัฐร่วงลง 6,000 ราย สู่ 213,000 รายในช่วงสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 16 พ.ย. ซึ่งถือเป็นจุดต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนเม.ย. หรือจุดต่ำสุดรอบ 7 เดือน และอยู่ต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักเศรษฐศาสตร์ในโพลล์รอยเตอร์ที่ 220,000 ราย โดยรายงานนี้บ่งชี้ว่า การจ้างงานดีดขึ้นหลังจากที่เคยได้รับผลกระทบจากพายุเฮอริเคนและจากการผละงานประท้วงในเดือนต.ค. อย่างไรก็ดี รายงานฉบับนี้บ่งชี้ว่า ผู้ว่างงานอาจจะใช้เวลานานยิ่งขึ้นในการหางานทำใหม่ เพราะว่าตัวเลขคนว่างงานทะยานขึ้นแตะจุดสูงสุดในรอบ 3 ปี และปัจจัยนี้อาจจะช่วยสนับสนุนให้เฟดปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงในเดือนธ.ค. โดยกระทรวงแรงงานระบุว่า ยอดผู้ได้รับสวัสดิการว่างงานอย่างต่อเนื่องพุ่งขึ้น 36,000 ราย สู่ 1.908 ล้านรายในช่วงสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 9 พ.ย.
ดัชนีดอลลาร์เมื่อเทียบกับตะกร้าสกุลเงินอยู่ที่ 107.06 ในช่วงท้ายตลาดวันพฤหัสบดี โดยแข็งค่าขึ้นจาก 106.61 ในช่วงท้ายตลาดวันพุธ หลังจากพุ่งขึ้นแตะ 107.15 ในระหว่างวัน ซึ่งถือเป็นจุดสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 4 ต.ค. 2023 หรือจุดสูงสุดรอบ 13 เดือน
ดอลลาร์/เยนอยู่ที่ 154.51 เยนในช่วงท้ายตลาดวันพฤหัสบดี โดยดิ่งลงจากระดับปิดตลาดวันพุธที่ 155.43 เยน
ยูโร/ดอลลาร์อยู่ที่ 1.0473 ดอลลาร์ในช่วงท้ายวันพฤหัสบดี โดยร่วงลงจาก 1.0543 ดอลลาร์ในช่วงท้ายวันพุธ หลังจากดิ่งลงแตะ 1.0461 ดอลลาร์ในระหว่างวัน ซึ่งถือเป็นจุดต่ำสุดรอบ 13 เดือน
บิทคอยน์พุ่งขึ้น 3.83% สู่ 98,081 ดอลลาร์ในช่วงท้ายวันพฤหัสบดี หลังจากทะยานขึ้นแตะสถิติสูงสุดใหม่ที่ 99,057 ดอลลาร์ในระหว่างวัน โดยบิทคอยน์ทะยานขึ้นมาแล้วกว่า 40% นับตั้งแต่นายโดนัลด์ ทรัมป์ชนะการเลือกตั้งชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐ เนื่องจากนักลงทุนคาดว่า นายทรัมป์จะผ่อนคลายกฎระเบียบสำหรับสกุลเงินคริปโต นอกจากนี้ ยังมีข่าว่า นายแกรี เจนส์เลอร์ ซึ่งเป็นผู้ที่เคยท้าทายอุตสาหกรรมสกุลเงินคริปโต จะลงจากตำแหน่งประธานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐ (SEC) ในวันที่ 20 ม.ค.ปีหน้าด้วย
นายฟิลิป เลน หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ยุโรปกล่าวว่า ผลผลิตทางเศรษฐกิจทั่วโลกจะได้รับความเสียหายเป็นอย่างมาก ถ้าหากการค้าโลกมีการแบ่งขั้วกันมากยิ่งขึ้น โดยการแบ่งขั้วดังกล่าวจะส่งผลกระตุ้นภาวะเงินเฟ้อในทันที และผลกระทบดังกล่าวจะจางหายไปก็ต่อเมื่อเวลาผ่านไปแล้วหลายปี ทั้งนี้ นักลงทุนคาดการณ์ในตอนนี้ว่า มีโอกาส 57.6% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25% สู่ 4.25-4.50% ในการประชุมวันที่ 17-18 ธ.ค. โดยโอกาสดังกล่าวปรับลดลงจากระดับ 72.2% ที่เคยคาดไว้เมื่อหนึ่งสัปดาห์ก่อน และนักลงทุนคาดการณ์อีกด้วยว่า มีโอกาส 42.4% ที่เฟดจะตรึงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ 4.50-4.75% ตามเดิมในการประชุมวันที่ 17-18 ธ.ค. นอกจากนี้ นักลงทุนก็คาดว่า เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงรวมกันเพียง 0.70% ตั้งแต่ช่วงนี้จนถึงสิ้นปี 2025
นายจอห์น วิลเลียมส์ ประธานเฟดสาขานิวยอร์คกล่าวว่า เขาคาดว่าอัตราเงินเฟ้อจะชะลอตัวลง และอัตราดอกเบี้ยจะปรับลดลงต่อไป ส่วนนายทอม บาร์คิน ประธานเฟดสาขาริชมอนด์กล่าวว่า สหรัฐมีความอ่อนไหวต่อเหตุร้ายแรงด้านเงินเฟ้อมากกว่าในอดีต ทางด้านนายออสตัน กูลส์บี ประธานเฟดสาขาชิคาโกกล่าวย้ำว่า เขาสนับสนุนให้เฟดปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงต่อไป และเขาเปิดโอกาสสำหรับการปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอย่างเชื่องช้ากว่าเดิม--จบ--
Eikon source text
(รอยเตอร์ โดย จิตร โพธิ์แก้ว แปลและเรียบเรียง)
((jit.phokaew@thomsonreuters.com; โทร 08-7689-6043;
โตเกียว--21 พ.ย.--รอยเตอร์
ดัชนีดอลลาร์สหรัฐเมื่อเทียบกับตะกร้าสกุลเงินขยับลงเล็กน้อยในการซื้อขายช่วงเช้าวันนี้ที่ตลาดเอเชีย ในขณะที่นักลงทุนพยายามประเมินแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) และรอดูนโยบายต่าง ๆ ของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐ โดยในตอนนี้นักลงทุนคาดว่า มีโอกาส 53.3% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25% สู่ 4.25-4.50% ในการประชุมวันที่ 17-18 ธ.ค. โดยปรับลดลงจากโอกาส 82.5% ที่เคยคาดไว้เมื่อหนึ่งสัปดาห์ก่อน และนักลงทุนยังคาดการณ์ในตอนนี้อีกด้วยว่า มีโอกาส 46.7% ที่เฟดจะตรึงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ 4.50-4.75% ตามเดิมในการประชุมวันที่ 17-18 ธ.ค. และนักลงทุนคาดว่า เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงรวมกันเพียง 0.73% ตั้งแต่ช่วงนี้จนถึงสิ้นปี 2025 ทั้งนี้ รอยเตอร์ได้สำรวจความเห็นนักเศรษฐศาสตร์ในวันที่ 12-20 พ.ย. และได้เปิดเผยผลสำรวจออกมาในวันพุธ โดยผลสำรวจระบุว่า นักเศรษฐศาสตร์ 94 จาก 106 ราย หรือนักเศรษฐศาสตร์ 89% ในโพลล์รอยเตอร์คาดว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25% สู่ 4.25%-4.50% ในการประชุมวันที่ 17-18 ธ.ค. ส่วนนักเศรษฐศาสตร์ที่เหลืออีก 12 รายคาดว่า เฟดจะตรึงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ 4.50-4.75% ตามเดิมในการประชุมเดือนธ.ค. นอกจากนี้ นักเศรษฐศาสตร์ยังคาดการณ์ในตอนนี้ว่า อัตราดอกเบี้ย fed funds จะอยู่ที่ 3.50%-3.75% ในช่วงสิ้นปี 2025 หากวัดจากค่ากลางของโพลล์ ซึ่งสูงกว่าระดับ 3.00%-3.25% ที่เคยคาดไว้เมื่อหนึ่งเดือนก่อน โดยเป็นผลจากความเสี่ยงที่นโยบายของนายทรัมป์อาจจะส่งผลให้อัตราเงินเฟ้อปรับสูงขึ้น
ดอลลาร์/เยนร่วงลง 0.30% สู่ 154.96 เยนในช่วงเช้าวันนี้ หลังจากพุ่งขึ้นแตะ 156.74 เยนในวันศุกร์ที่ 15 พ.ย. ซึ่งถือเป็นจุดสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 23 ก.ค. และเทียบกับระดับ 161.96 เยนที่เคยทำไว้ในวันที่ 3 ก.ค. ซึ่งถือเป็นจุดสูงสุดนับตั้งแต่ปี 1986 หรือจุดสูงสุดในรอบ 38 ปี ส่วนยูโร/ดอลลาร์ขยับขึ้น 0.06% สู่ 1.0549 ดอลลาร์สหรัฐในช่วงเช้าวันนี้ หลังจากดิ่งลงแตะ 1.0496 ดอลลาร์ในวันพฤหัสบดีที่ 14 พ.ย. ซึ่งถือเป็นจุดต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนต.ค. 2023 หรือจุดต่ำสุดรอบ 1 ปี ทางด้านดัชนีดอลลาร์สหรัฐเมื่อเทียบกับตะกร้าสกุลเงินขยับลง 0.06% สู่ 106.55 ในช่วงเช้าวันนี้ หลังจากพุ่งขึ้นแตะจุดสูงสุดรอบ 1 ปีที่ 107.07 ในวันพฤหัสบดีที่ 14 พ.ย. ทั้งนี้ ปอนด์ขยับขึ้น 0.07% สู่ 1.2656 ดอลลาร์สหรัฐในช่วงเช้าวันนี้ ส่วนดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้น 0.14% สู่ 0.6515 ดอลลาร์สหรัฐในช่วงเช้าวันนี้ ทางด้านดอลลาร์นิวซีแลนด์ขยับขึ้น 0.03% สู่ 0.5879 ดอลลาร์สหรัฐในช่วงเช้าวันนี้
ดัชนีดอลลาร์สหรัฐพุ่งขึ้นมาแล้วกว่า 2% นับตั้งแต่การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐในวันที่ 5 พ.ย. โดยดอลลาร์ได้รับแรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่า เฟดอาจจะชะลอความเร็วในการปรับลดอัตราดอกเบี้ย เพราะว่านโยบายของนายทรัมป์จะกระตุ้นภาวะเงินเฟ้อในสหรัฐ นอกจากนี้ ดอลลาร์ยังได้รับแรงหนุนเพิ่มเติมจากการคาดการณ์ที่ว่า มาตรการด้านภาษีศุลกากรของนายทรัมป์จะสร้างความเสียหายต่อเศรษฐกิจยุโรปและเศรษฐกิจจีนด้วย ทั้งนี้ นายแมทท์ ซิมป์สัน นักวิเคราะห์ตลาดของบริษัทซิตี้ อินเด็กซ์ระบุว่า "เป็นเรื่องยากที่จะขายดอลลาร์สหรัฐในตอนนี้" ในขณะที่นักลงทุนพิจารณาความเป็นไปได้ที่เฟดจะไม่ปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงในเดือนหน้า และเขากล่าวเสริมว่า "ความขัดแย้งระหว่างรัสเซียกับยูเครนทวีความรุนแรงมากยิ่งขึ้น และปัจจัยนี้ก็ส่งผลลบต่อยูโร ในขณะที่ยูโรได้รับแรงกดดันอยู่แล้วจากแนวโน้มที่สหรัฐจะปรับขึ้นภาษีนำเข้า"
มีข่าวว่า ยูเครนได้ยิงขีปนาวุธ ATACMS ที่ผลิตในสหรัฐเข้าไปในรัสเซียในวันอังคาร และยูเครนได้ยิงขีปนาวุธพิสัยไกล "บริติช สตอร์ม ชาโดว์" เข้าไปในรัสเซียในวันพุธด้วย ทางด้านรัฐบาลรัสเซียได้ประกาศปรับลดเงื่อนไขในการใช้อาวุธนิวเคลียร์ อย่างไรก็ดี นายเซอร์ไก ลาฟรอฟ รมว.ต่างประเทศรัสเซียกล่าวในเวลาต่อมาว่า รัสเซียจะ "ทำทุกสิ่งที่ทำได้" เพื่อหลีกเลี่ยงสงครามนิวเคลียร์ ทั้งนี้ มิเชลล์ โบว์แมน ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ว่าการเฟด และลิซา คุก ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ว่าการเฟด แสดงความเห็นที่ขัดแย้งกันเองในวันพุธในเรื่องแนวโน้มนโยบายการเงินในสหรัฐ โดยโบว์แมนแสดงความกังวลต่อการปรับลดอัตราดอกเบี้ย ในขณะที่อัตราเงินเฟ้อยังคงอยู่สูงกว่าระดับเป้าหมายที่เฟดตั้งไว้ที่ 2% และเธอเรียกร้องให้เฟดใช้ความระมัดระวังในการปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงต่อไป ทางด้านลิซา คุก กล่าวในวันพุธว่า อัตราเงินเฟ้อของสหรัฐยังคงชะลอตัวลงต่อไป, ค่าแรงชะลอตัวลง และตลาดแรงงานชะลอตัวลง ส่วนการเพิ่มขึ้นของราคาในระดับที่มากเกินไปส่วนใหญ่แล้วจำกัดวงอยู่แค่ภายในภาคที่อยู่อาศัย ดังนั้นสถานการณ์ในตอนนี้จึงมีแนวโน้มว่าจะยังคงอยู่ในภาวะที่เหมาะสมสำหรับการปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงต่อไป
ดอลลาร์/เยนเพิ่งพุ่งขึ้นแตะจุดสูงสุดนับตั้งแต่เดือนก.ค.ในสัปดาห์ที่แล้ว และปัจจัยดังกล่าวทำให้นักลงทุนกังวลว่า ทางการญี่ปุ่นอาจจะเข้ามาแทรกแซงตลาดเพื่อหนุนค่าเงินเยนในอนาคต โดยนักลงทุนกำลังรอฟังถ้อยแถลงของนายคาสุโอะ อุเอดะ ผู้ว่าการธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) ในงานประชุมทางการเงินที่กรุงปารีสในช่วงต่อไปในวันนี้ หลังจากที่ถ้อยแถลงของเขาในช่วงต้นสัปดาห์นี้เปิดโอกาสสำหรับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนธ.ค. นอกจากนี้ นักลงทุนยังคาดการณ์อีกด้วยว่า มีโอกาส 52% ที่บีโอเจอาจจะตรึงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ 0.25% ตามเดิมในการประชุมวันที่ 19 ธ.ค. และมีโอกาส 48% ที่บีโอเจอาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ 0.50% ในการประชุมวันที่ 19 ธ.ค. ทั้งนี้ บิทคอยน์พุ่งขึ้นแตะสถิติสูงสุดใหม่ที่ 95,050.28 ดอลลาร์ในวันนี้ หลังจากที่เพิ่งทะยานขึ้น 2.41% สู่ 94,461 ดอลลาร์ในช่วงท้ายวันพุธ โดยบิทคอยน์ได้รับแรงหนุนจากความคาดหวังที่ว่า รัฐบาลใหม่ของสหรัฐจะผ่อนคลายกฎระเบียบด้านสกุลเงินคริปโต และได้รับแรงหนุนจากข่าวที่ว่า บริษัทด้านสื่อสังคมของนายทรัมป์กำลังเจรจาเพื่อเข้าซื้อบริษัท Bakkt ที่ทำธุรกิจซื้อขายสกุลเงินคริปโต--จบ--
Eikon source text
(รอยเตอร์ โดย จิตร โพธิ์แก้ว แปลและเรียบเรียง)
((jit.phokaew@thomsonreuters.com; โทร 08-7689-6043;
นิวยอร์ค--21 พ.ย.--รอยเตอร์
ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นในวันพุธ หลังจากปิดตลาดในแดนลบมานานติดต่อกัน 3 วัน ในขณะที่นักลงทุนพยายามประเมินแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) และรอดูนโยบายต่าง ๆ ของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐ โดยในตอนนี้นักลงทุนคาดว่า มีโอกาส 53.2% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25% สู่ 4.25-4.50% ในการประชุมวันที่ 17-18 ธ.ค. โดยปรับลดลงจากโอกาส 82.5% ที่เคยคาดไว้เมื่อหนึ่งสัปดาห์ก่อน และนักลงทุนยังคาดการณ์ในตอนนี้อีกด้วยว่า มีโอกาส 46.8% ที่เฟดจะตรึงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ 4.50-4.75% ตามเดิมในการประชุมวันที่ 17-18 ธ.ค. และนักลงทุนคาดว่า เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงรวมกันเพียง 0.73% ตั้งแต่ช่วงนี้จนถึงสิ้นปี 2025 ทั้งนี้ นักเศรษฐศาสตร์ส่วนใหญ่ในโพลล์รอยเตอร์คาดว่า เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงในเดือนธ.ค. แต่นักเศรษฐศาสตร์ปรับลดการคาดการณ์เรื่องแนวโน้มในการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปีหน้าเมื่อเทียบกับที่เคยคาดไว้เมื่อหนึ่งเดือนก่อน โดยเป็นผลจากความเสี่ยงที่นโยบายของนายทรัมป์อาจจะส่งผลให้อัตราเงินเฟ้อปรับสูงขึ้น โดยนักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ในตอนนี้ว่า อัตราดอกเบี้ย fed funds จะอยู่ที่ 3.50%-3.75% ในช่วงสิ้นปี 2025 ซึ่งสูงกว่าระดับ 3.00%-3.25% ที่เคยคาดไว้เมื่อหนึ่งเดือนก่อน
ดัชนีดอลลาร์เมื่อเทียบกับตะกร้าสกุลเงินอยู่ที่ 106.61 ในช่วงท้ายตลาดวันพุธ โดยแข็งค่าขึ้นจาก 106.13 ในช่วงท้ายตลาดวันอังคาร
ดอลลาร์/เยนอยู่ที่ 155.43 เยนในช่วงท้ายตลาดวันพุธ โดยพุ่งขึ้นจากระดับปิดตลาดวันอังคารที่ 154.65 เยน หลังจากพุ่งขึ้นแตะ 156.74 เยนในวันศุกร์ที่ 15 พ.ย. ซึ่งถือเป็นจุดสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 23 ก.ค.
ยูโร/ดอลลาร์อยู่ที่ 1.0543 ดอลลาร์ในช่วงท้ายวันพุธ โดยร่วงลงจาก 1.0595 ดอลลาร์ในช่วงท้ายวันอังคาร
เยน, ฟรังก์สวิส และดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งถือเป็นสามสกุลเงินปลอดภัย ได้รับแรงหนุนเป็นเวลาสั้น ๆ ในระหว่างช่วงการซื้อขายวันพุธ หลังจากรัฐบาลรัสเซียประกาศปรับลดเงื่อนไขในการใช้อาวุธนิวเคลียร์ อย่างไรก็ดี คำสั่งซื้อสกุลเงินปลอดภัยจางหายไปในเวลาต่อมา หลังจากนายเซอร์ไก ลาฟรอฟ รมว.ต่างประเทศรัสเซียกล่าวว่า รัสเซียจะ "ทำทุกสิ่งที่ทำได้" เพื่อหลีกเลี่ยงสงครามนิวเคลียร์ ทั้งนี้ ดัชนีดอลลาร์สหรัฐพุ่งขึ้นมาแล้วราว 3% นับตั้งแต่การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐในวันที่ 5 พ.ย. โดยดอลลาร์ได้รับแรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่า เฟดอาจจะชะลอความเร็วในการปรับลดอัตราดอกเบี้ย เพราะว่านโยบายของนายทรัมป์จะกระตุ้นภาวะเงินเฟ้อในสหรัฐ
มิเชลล์ โบว์แมน ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ว่าการเฟด และลิซา คุก ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ว่าการเฟด แสดงความเห็นที่ขัดแย้งกันเองในวันพุธในเรื่องแนวโน้มนโยบายการเงินในสหรัฐ โดยโบว์แมนแสดงความกังวลต่อการปรับลดอัตราดอกเบี้ย ในขณะที่อัตราเงินเฟ้อยังคงอยู่สูงกว่าระดับเป้าหมายที่เฟดตั้งไว้ที่ 2% และเธอเรียกร้องให้เฟดใช้ความระมัดระวังในการปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงต่อไป ทางด้านลิซา คุก กล่าวในวันพุธว่า อัตราเงินเฟ้อของสหรัฐยังคงชะลอตัวลงต่อไป, ค่าแรงชะลอตัวลง และตลาดแรงงานชะลอตัวลง ส่วนการเพิ่มขึ้นของราคาในระดับที่มากเกินไปส่วนใหญ่แล้วจำกัดวงอยู่แค่ภายในภาคที่อยู่อาศัย ดังนั้นสถานการณ์ในตอนนี้จึงมีแนวโน้มว่าจะยังคงอยู่ในภาวะที่เหมาะสมสำหรับการปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงต่อไป
ปอนด์อ่อนค่าลงจาก 1.2682 ดอลลาร์ในช่วงท้ายวันอังคาร สู่ 1.2647 ดอลลาร์ในช่วงท้ายวันพุธ ถึงแม้อังกฤษรายงานว่า อัตราเงินเฟ้อพุ่งขึ้นสูงเกินคาดในเดือนต.ค. ทางด้านเทรดเดอร์คาดว่า มีโอกาส 82.8% ที่ธนาคารกลางอังกฤษ (บีโออี) จะตรึงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับเดิมในการประชุมวันที่ 19 ธ.ค. ทั้งนี้ บิทคอยน์พุ่งขึ้น 2.41% สู่ 94,461 ดอลลาร์ในช่วงท้ายวันพุธ หลังจากทะยานขึ้นแตะสถิติสูงสุดใหม่ที่ 94,982.37 ดอลลาร์ได้ในระหว่างวัน โดยบิทคอยน์ได้รับแรงหนุนจากความคาดหวังที่ว่า รัฐบาลใหม่ของสหรัฐจะผ่อนคลายกฎระเบียบด้านสกุลเงินคริปโต และได้รับแรงหนุนจากข่าวที่ว่า บริษัทด้านสื่อสังคมของนายทรัมป์กำลังเจรจาเพื่อเข้าซื้อบริษัท Bakkt ที่ทำธุรกิจซื้อขายสกุลเงินคริปโต--จบ--
Eikon source text
(รอยเตอร์ โดย จิตร โพธิ์แก้ว แปลและเรียบเรียง)
((jit.phokaew@thomsonreuters.com; โทร 08-7689-6043;
ดอลลาร์อ่อนค่าลงมาที่ระดับต่ำสุดในรอบ 1 สัปดาห์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆในวันนี้ โดยมีแนวโน้มว่าจะอ่อนค่าต่อเนื่อง 3 วันจากระดับสูงสุดในรอบ 1 สัปดาห์ ขณะที่ตลาดพักฐานหลังจากที่แข็งค่าขึ้นมากหลังการชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐของนายโดนัลด์ ทรัมป์ และปัจจัยหนุนดอลลาร์และสกุลเงินปลอดภัยอื่นๆ อาทิ เยน เกิดขึ้นชั่วคราวเมื่อคืนนี้ หลังจากรมว.ต่างประเทศของรัสเซียกล่าวว่า รัสเซียจะทำ "ทุกอย่างที่เป็นไปได้" เพื่อหลีกเลี่ยงการเริ่มต้นของสงครามนิวเคลียร์ ไม่กี่ชั่วโมงหลังจากที่รัสเซียประกาศว่าจะลดเกณฑ์สำหรับการโจมตีด้วยนิวเคลียร์
ดัชนีดอลลาร์ปรับตัวลงสู่ระดับ 106.18 ส่วนดอลลาร์แข็งค่า 0.9% มาที่ 154.84 เยน หลังจากร่วงลงสู่ระดับ 153.28 เยนเมื่อวานนี้หลังข่าวรัสเซีย ส่วนยูโรทรงตัวที่ 1.0598 ต่อดอลลาร์ โดยฟื้นตัวขึ้นจากที่ร่วงลงสู่ระดับ 1.0524 ต่อดอลลาร์เมื่อวานนี้
นักลงทุนยังคงรอให้นายทรัมป์แต่งตั้งรมว.คลัง หลังจากการประกาศการแต่งตั้งเจ้าหน้าที่ระดับสูงอีกหลายคน ซึ่งรวมถึงการแต่งตั้งนายโฮเวิร์ด ลุทนิค ซีอีโอวอลล์สตรีทให้ดำรงตำแหน่งรมว.พาณิชย์
เทรดเดอร์ยังคงปรับลดคาดการณ์การลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในการประชุมนโยบายในเดือนหน้า และเครื่องมือเฟดวอทช์ของซีเอ็มอีพบว่า มีโอกาส 57.3% ลดลงจาก 58.7% เมื่อวานนี้ เทียบกับ 76.8% ในเดือนที่แล้ว
บิทคอยน์พุ่งขึ้นทำสถิติสูงสุดตลอดกาลครั้งใหม่ทะลุระดับ 94,000 ดอลลาร์ ซึ่งได้แรงหนุนจากการคาดการณ์สิ่งแวดล้อมที่เอื้อหนุนมากขึ้นสำหรับสกุลเงินคริปโตภายใต้การบริหารของนายทรัมป์ ขณะที่หนังสือพิมพ์ไฟแนนเชียล ไทม์สรายงานว่า บริษัทโซเชียล มีเดียของนายทรัมป์กำลังเจรจาเพื่อซื้อบริษัท Bakkt ซึ่งเป็นบริษัทซื้อขายคริปโต ซึ่งหนุนความหวังว่าจะมีระบบที่เป็นมิตรต่อสกุลเงินคริปโตภายใต้การบริหารของเขา--จบ--
Eikon source text
(รอยเตอร์ โดย เสาวณีย์ เอกปัญญาชัย แปลและเรียบเรียง)
ดัชนีดอลลาร์ปรับตัวขึ้นในวันอังคาร หลังจากการปรับตัวขึ้นในช่วงแรกต่อสกุลเงินที่เป็นสินทรัพย์ปลอดภัย อาทิ ดอลลาร์, ฟรังก์สวิส และเยนที่เกิดขึ้นจากการประกาศของรัสเซียที่ว่า รัสเซียจะปรับลดเกณฑ์สำหรับการโจมตีด้วยนิวเคลียร์นั้น แผ่วลงหลังการแสดงความเห็นของเจ้าหน้าที่รัสเซียและสหรัฐ โดยรัสเซียเปิดเผยว่า ยูเครนได้ใช้ขีปนาวุธ ATACMS ของสหรัฐเพื่อโจมตีดินแดนของรัสเซียเป็นครั้งแรก ซึ่งเป็นการโจมตีที่ถูกรัสเซียมองว่าเป็นการเพิ่มความขัดแย้งครั้งใหญ่ในขณะที่สงครามดำเนินมาเป็นวันที่ 1,000 แล้ว และประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูตินของรัสเซียได้อนุมัติการเปลี่ยนแปลงหลักการการใช้นิวเคลียร์ของรัสเซียเพียงไม่กี่วัน หลังจากเจ้าหน้าที่สหรัฐ 2 รายและแหล่งข่าวที่คุ้นเคยกับการตัดสินใจดังกล่าวกล่าวว่า ฝ่ายบริหารของประธานาธิบดีโจ ไบเดนจะอนุญาตให้ยูเครนใช้อาวุธที่ผลิตโดยสหรัฐเพื่อโจมตีลึกเข้ามาในรัสเซีย
ดัชนีดอลลาร์เมื่อเทียบกับตะกร้าสกุลเงินอยู่ที่ 106.10 ในช่วงท้ายตลาดวันอังคาร ปรับตัวลงจากระดับ 106.22 ในช่วงท้ายตลาดวันจันทร์ หลังจากที่ปรับตัวขึ้นแตะจุดสูงสุดที่ 106.63 ในช่วงแรก
ดอลลาร์/เยนอยู่ที่ 154.65 เยนในช่วงท้ายตลาดวันอังคาร ไม่เปลี่ยนแปลงจากระดับ 154.65 เยนในช่วงท้ายตลาดวันจันทร์ โดยเยนแข็งค่าถึง 0.91% ในช่วงแรก และเยนยังแข็งค่ามาที่ระดับสูงสุดในรอบ 6 สัปดาห์ที่ 161.50 เมื่อเทียบกับยูโรด้วย
ยูโร/ดอลลาร์อยู่ที่ 1.0595 ดอลลาร์ในช่วงท้ายตลาดวันอังคาร ลดลงจากระดับ 1.0599 ดอลลาร์ในช่วงท้ายวันจันทร์
ปฏิกริยาในเบื้องต้นของตลาดจางหายไปบ้าง หลังจากนายเซอร์ไก ลาฟรอฟ รมว.ต่างประเทศรัสเซียกล่าวว่า รัสเซียจะ "ทำทุกอย่างที่เป็นไปได้" เพื่อหลีกเลี่ยงการเกิดสงครามนิวเคลียร์ ขณะเดียวกันก็เห็นชอบการตัดสินใจของเยอรมนีที่จะไม่จัดหาขีปนาวุธพิสัยไกลให้แก่ยูเครน โดยระบุว่านั่นเป็น "จุดยืนที่มีความรับผิดชอบ" นอกจากนี้ สหรัฐระบุว่า ไม่เห็นเหตุผลใดๆที่จะปรับจุดยืนเรื่องนิวเคลียร์ของตนเอง
ดัชนีดอลลาร์ปรับตัวขึ้นจากการคาดการณ์มากขึ้นว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจชะลอแนวทางการลดอัตราดอกเบี้ย และจากความวิตกว่า นโยบายต่างๆของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐ อาจกระตุ้นเงินเฟ้อขึ้นมาอีกครั้ง โดยเครื่องมือเฟดวอทช์ของซีเอ็มอีพบว่า ตลาดปรับตัวรับโอกาส 59.1% ที่เฟดจะลดดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมในเดือนหน้า ลดลงจากโอกาส 76.8% ในเดือนที่แล้ว
นายเจฟฟรี ชมิดท์ ประธานเฟดสาขาแคนซัสซิตี้กล่าวว่า ยังคงไม่แน่นอนว่า อัตราดอกเบี้ยจะสามารถปรับลดลงได้มากแค่ไหน แต่การลดดอกเบี้ยที่ผ่านมาบ่งชี้ถึงความเชื่อมั่นว่า เงินเฟ้อกำลังปรับตัวไปสู่เป้าหมาย 2%--จบ--
Eikon source text
สิงคโปร์--19 พ.ย.--รอยเตอร์
ดอลลาร์/เยนดิ่งลงในการซื้อขายช่วงเช้าวันนี้ที่ตลาดเอเชีย ในขณะที่ดอลลาร์สหรัฐเผชิญกับแรงเทขายทำกำไร หลังจากพุ่งขึ้นอย่างแข็งแกร่งในช่วงที่ผ่านมา โดยก่อนหน้านี้ดอลลาร์/เยนเพิ่งแข็งค่าขึ้นในวันจันทร์ หลังจากนายคาสุโอะ อุเอดะ ผู้ว่าการธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) ส่งสัญญาณว่า บีโอเจจะคุมเข้มนโยบายการเงินต่อไป และเขากล่าวเตือนว่าบีโอเจไม่ควรตรึงอัตราดอกเบี้ยไว้ในระดับต่ำเกินไป แต่เขาไม่ได้ระบุว่าบีโอเจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเมื่อใด และถ้อยแถลงดังกล่าวของเขาทำให้นักลงทุนไม่แน่ใจว่า บีโอเจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมวันที่ 18-19 ธ.ค.หรือไม่ โดยการแสดงความเห็นของเขาในวันจันทร์ถือเป็นการแสดงความเห็นครั้งแรกของเขาต่อนโยบายการเงิน นับตั้งแต่นายโดนัลด์ ทรัมป์ชนะการเลือกตั้งชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐในวันที่ 5 พ.ย.เป็นต้นมา ทั้งนี้ นายโรดริโก คาทริล นักยุทธศาสตร์การลงทุนสกุลเงินของธนาคารเนชันแนล ออสเตรเลีย แบงก์ระบุว่า "การอ่อนค่าของเยนในระยะนี้ส่งผลให้นักลงทุนหลายรายคาดหวังว่า นายอุเอดะจะส่งสัญญาณแบบสายเหยี่ยว แต่นายอุเอดะกลับส่งสัญญาณแบบเดิม" และเขากล่าวเสริมว่า "เราคิดว่าเศรษฐกิจและภาวะเงินเฟ้อในญี่ปุ่นจะสนับสนุนให้บีโอเจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนธ.ค. แต่ปัจจัยสำคัญจะขึ้นอยู่กับว่า นักการเมืองจะต่อต้านการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยหรือไม่ เพราะว่าพรรคเสรีประชาธิปไตย (LDP) พยาายามจะฟื้นฟูเสียงสนับสนุนจากประชาชน หลังจากทางพรรคทำคะแนนได้ไม่ดีในการเลือกตั้งสมาชิกสภาล่างในช่วงที่ผ่านมา"
ดอลลาร์/เยนดิ่งลง 0.42% สู่ 154.00 เยนในช่วงเช้าวันนี้ หลังจากพุ่งขึ้นแตะ 156.74 เยนในวันศุกร์ที่ 15 พ.ย. ซึ่งถือเป็นจุดสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 23 ก.ค. ส่วนยูโร/ดอลลาร์ขยับลง 0.03% สู่ 1.0596 ดอลลาร์สหรัฐในช่วงเช้าวันนี้ หลังจากดิ่งลงแตะ 1.0496 ดอลลาร์ในวันพฤหัสบดีที่ 14 พ.ย. ซึ่งถือเป็นจุดต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนต.ค. 2023 หรือจุดต่ำสุดรอบ 1 ปี ทางด้านดัชนีดอลลาร์สหรัฐเมื่อเทียบกับตะกร้าสกุลเงินขยับลง 0.08% สู่ 106.14 ในช่วงเช้าวันนี้ หลังจากพุ่งขึ้นแตะจุดสูงสุดรอบ 1 ปีที่ 107.07 ในวันพฤหัสบดีที่ 14 พ.ย. ทั้งนี้ ปอนด์ขยับขึ้น 0.07% สู่ 1.2685 ดอลลาร์สหรัฐในช่วงเช้าวันนี้ ส่วนดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้น 0.12% สู่ 0.6515 ดอลลาร์สหรัฐในช่วงเช้าวันนี้ ทางด้านดอลลาร์นิวซีแลนด์ทรงตัวที่ 0.5894 ดอลลาร์สหรัฐในช่วงเช้าวันนี้
เยนดิ่งลงมาแล้วราว 7% นับตั้งแต่เดือนต.ค. และส่งผลให้เทรดเดอร์จับตามองว่า ทางการญี่ปุ่นจะเข้ามาแทรกแซงตลาดเพื่อหนุนค่าเงินเยนหรือไม่ ทั้งนี้ นายคัตสึโนบุ คาโตะ รมว.คลังญี่ปุ่นกล่าวย้ำในวันนี้ว่า รัฐบาลญี่ปุ่นจะยังคงตอบรับอย่างเหมาะสมต่อความเคลื่อนไหวที่มากเกินไปในตลาดปริวรรตเงินตรา ถึงแม้เยนดีดขึ้นในช่วงนี้ก็ตาม โดยเขากล่าวในงานแถลงข่าวว่า "ผมได้เคยกล่าวไปแล้วว่า เราเห็นความเคลื่อนไหวอย่างรุนแรงในทิศทางเดียวนับตั้งแต่ปลายเดือนก.ย.เป็นต้นมา" และเขากล่าวเสริมว่า "เราจะยังคงจับตาดูความเคลื่อนไหวในตลาดปริวรรตเงินตราอย่างใกล้ชิดต่อไป ซึ่งรวมถึงความเคลื่อนไหวที่เกิดจากนักเก็งกำไร โดยเรามองว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องที่จำเป็นเร่งด่วนที่สุด และเราจะตอบอย่างเหมาะสมต่อความเคลื่อนไหวที่มากเกินไป"
ดอลลาร์สหรัฐพุ่งขึ้นมาแล้วกว่า 2% จากช่วงต้นเดือนนี้ โดยได้รับแรงหนุนจากการที่นักลงทุนปรับลดการคาดการณ์เรื่องแนวโน้มในการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) และจากการคาดการณ์ที่ว่า นโยบายต่าง ๆ ของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐ จะกระตุ้นภาวะเงินเฟ้อในสหรัฐ ทางด้านนายจาร์ร็อด เคอร์ หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของธนาคารกีวีแบงก์กล่าวว่า "มีแรงเทขายทำกำไรเข้ามา หลังจากดอลลาร์พุ่งขึ้นครั้งใหญ่" ทั้งนี้ เทรดเดอร์คาดการณ์ในตอนนี้ว่า มีโอกาส 58.9% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25% สู่ 4.25-4.50% ในการประชุมวันที่ 17-18 ธ.ค. และคาดว่ามีโอกาส 41.1% ที่เฟดจะตรึงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ 4.50-4.75% ตามเดิมในการประชุมวันที่ 17-18 ธ.ค. โดยนักลงทุนคาดการณ์กันอีกด้วยว่า เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงรวมกันเพียง 0.78% ตั้งแต่ช่วงนี้จนถึงสิ้นปี 2025
ธนาคารกลางออสเตรเลีย (RBA) เปิดเผยรายงานการประชุมกำหนดนโยบายประจำวันที่ 4-5 พ.ย.ออกมาในวันนี้ โดยรายงานการประชุมแสดงให้เห็นว่า ผู้กำหนดนโยบายมองว่า RBA ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องปรับอัตราดอกเบี้ยในเร็ว ๆ นี้ หลังจาก RBA ตรึงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับ 4.35% มาเป็นเวลานานหนึ่งปีแล้ว แต่ผู้กำหนดนโยบายมองว่า สิ่งที่สำคัญก็คือความพร้อมที่จะปรับนโยบายเมื่อแนวโน้มเศรษฐกิจเปลี่ยนแปลงไป ทางด้านนักลงทุนคาดว่า มีโอกาสเพียง 38% ที่ RBA จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนก.พ.ปีหน้า และมีโอกาส 100% ที่ RBA จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยก่อนสิ้นเดือนพ.ค.ปีหน้า ทั้งนี้ ธนาคารกลางนิวซีแลนด์ (RBNZ) จะจัดการประชุมกำหนดนโยบายในวันที่ 27 พ.ย. ในขณะที่เทรดเดอร์คาดว่า RBNZ อาจจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.50% ในการประชุมครั้งนี้--จบ--
Eikon source text
(รอยเตอร์ โดย จิตร โพธิ์แก้ว แปลและเรียบเรียง)
((jit.phokaew@thomsonreuters.com; โทร 08-7689-6043;
นิวยอร์ค--19 พ.ย.--รอยเตอร์
ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเยนในวันจันทร์ หลังจากนายคาสุโอะ อุเอดะ ผู้ว่าการธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) ส่งสัญญาณว่า บีโอเจจะคุมเข้มนโยบายการเงินต่อไป และเขากล่าวเตือนว่าบีโอเจไม่ควรตรึงอัตราดอกเบี้ยไว้ในระดับต่ำเกินไป แต่เขาไม่ได้ระบุว่าบีโอเจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเมื่อใด และถ้อยแถลงดังกล่าวของเขาทำให้นักลงทุนไม่แน่ใจว่า บีโอเจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมวันที่ 18-19 ธ.ค.หรือไม่ โดยการแสดงความเห็นของเขาในวันจันทร์ถือเป็นการแสดงความเห็นครั้งแรกของเขาต่อนโยบายการเงิน นับตั้งแต่นายโดนัลด์ ทรัมป์ชนะการเลือกตั้งชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐในวันที่ 5 พ.ย. ทั้งนี้ นายอุเอดะกล่าวย้ำว่า อัตราดอกเบี้ยจะยังคงปรับขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไป ถ้าหากเศรษฐกิจญี่ปุ่นปรับตัวไปตามแนวทางที่บีโอเจคาดการณ์ไว้ แต่เขาไม่ได้ระบุว่า บีโอเจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนธ.ค.หรือไม่ โดยเขากล่าวว่า บีโอเจจำเป็นจะต้องมุ่งความสนใจไปยังปัจจัยเสี่ยงหลายประการ ซึ่งรวมถึงปัจจัยเสี่ยงจากเศรษฐกิจสหรัฐ และเขากล่าวเสริมว่า เศรษฐกิจญี่ปุ่นกำลังมีความคืบหน้าในการทำให้เกิดเงินเฟ้อที่ยั่งยืนที่ได้รับการสนับสนุนจากค่าจ้างที่เพิ่มขึ้น ทางด้านนักลงทุนคาดการณ์ว่า มีโอกาส 54% ที่บีโอเจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมวันที่ 19 ธ.ค. ซึ่งใกล้เคียงกับระดับที่เคยคาดไว้ก่อนที่นายอุเอดะจะกล่าวแถลง
ดัชนีดอลลาร์เมื่อเทียบกับตะกร้าสกุลเงินอยู่ที่ 106.22 ในช่วงท้ายตลาดวันจันทร์ โดยร่วงลงจาก 106.66 ในช่วงท้ายตลาดวันศุกร์ หลังจากพุ่งขึ้นแตะจุดสูงสุดรอบ 1 ปีที่ 107.07 ในวันพฤหัสบดีที่ 14 พ.ย. และหลังจากดัชนีดอลลาร์เพิ่งปิดตลาดสัปดาห์ที่แล้วด้วยการพุ่งขึ้น 1.63% จากสัปดาห์ก่อนหน้านั้น ซึ่งถือเป็นการพุ่งขึ้นรายสัปดาห์ครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่เดือนก.ย.
ดอลลาร์/เยนอยู่ที่ 154.65 เยนในช่วงท้ายตลาดวันจันทร์ โดยแข็งค่าขึ้นจากระดับปิดตลาดวันศุกร์ที่ 154.34 เยน หลังจากพุ่งขึ้นแตะ 156.74 เยนในวันศุกร์ ซึ่งถือเป็นจุดสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 23 ก.ค.
ยูโร/ดอลลาร์อยู่ที่ 1.0599 ดอลลาร์ในช่วงท้ายวันจันทร์ โดยปรับขึ้นจาก 1.0541 ดอลลาร์ในช่วงท้ายวันศุกร์ หลังจากดิ่งลงแตะ 1.0496 ดอลลาร์ในวันพฤหัสบดีที่ 14 พ.ย. ซึ่งถือเป็นจุดต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนต.ค. 2023 หรือจุดต่ำสุดรอบ 1 ปี
ดอลลาร์/เยนเพิ่งดิ่งลง 1.22% ในวันศุกร์ หลังจากนายคัตสึโนบุ คาโตะ รมว.คลังญี่ปุ่น กล่าวเตือนในวันศุกร์ว่า ทางการญี่ปุ่นอาจจะเข้ามาแทรกแซงตลาด ถ้าหากเยนดิ่งลงอย่างรวดเร็วเกินไปและแตะระดับที่ต่ำจนเกินไป ทั้งนี้ ดัชนีตลาดที่อยู่อาศัยของสหรัฐที่จัดทำโดยสมาคมผู้ก่อสร้างบ้านแห่งชาติ (NAHB)/เวลส์ ฟาร์โก พุ่งขึ้นจาก 43 ในเดือนต.ค. สู่ 46 ในเดือนพ.ย. ซึ่งถือเป็นจุดสูงสุดนับตั้งแต่เดือนเม.ย. โดยได้รับแรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่า ผลการเลือกตั้งในสหรัฐจะส่งผลให้มีการปรับเปลี่ยนกฎระเบียบ ซึ่งจะช่วยกระตุ้นการก่อสร้างที่อยู่อาศัยในสหรัฐ
นายลูอิส เด กวินโดส รองประธานธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) และนายโยอาคิม นาเกล ประธานธนาคารกลางเยอรมนี (บุนเดสแบงก์) ส่งสัญญาณในวันจันทร์ว่า พวกเขากังวลกับความเสียหายที่เศรษฐกิจยูโรโซนอาจได้รับจากมาตรการด้านภาษีนำเข้าของสหรัฐ มากกว่ากังวลกับผลกระทบที่จะมีต่ออัตราเงินเฟ้อของยูโรโซน
นักลงทุนกำลังรอดูว่า นายทรัมป์จะเลือกใครให้มาดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีคลังสหรัฐ โดยตัวเก็งสำคัญสำหรับตำแหน่งนี้รวมถึงนายโฮเวิร์ด ลุทนิค ซีอีโอของบริษัทแคนเทอร์ ฟิตซ์เจอรัลด์, นายสก็อตต์ เบสเซนท์ ซึ่งเป็นนักลงทุน, นายเควิน วอร์ช อดีตผู้ว่าการธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) และนายมาร์ค โรแวน มหาเศรษฐีวัย 62 ปีที่เป็นผู้ร่วมก่อตั้งบริษัทอะพอลโล โกลบัล แมเนจเมนท์--จบ--
Eikon source text
(รอยเตอร์ โดย จิตร โพธิ์แก้ว แปลและเรียบเรียง)
((jit.phokaew@thomsonreuters.com; โทร 08-7689-6043;
ไวท์เลเบล
Data API
ปลั๊กอินเว็บไซต์
เครื่องมือออกแบบโปสเตอร์
โครงการพันธมิตร
ความเสี่ยงของการสูญเสียในการซื้อขายสินทรัพย์ทางการเงิน เช่น หุ้น FX สินค้าโภคภัณฑ์ ฟิวเจอร์ส พันธบัตร ETFs หรือเงินดิจิทัลอาจมีมาก คุณอาจสูญเสียเงินทุนทั้งหมดที่คุณฝากไว้กับโบรกเกอร์ของคุณ ดังนั้น คุณควรพิจารณาอย่างรอบคอบว่าการซื้อขายดังกล่าวเหมาะสมกับคุณหรือไม่ในสถานการณ์และทรัพยากรทางการเงินของคุณ
ไม่ควรตัดสินใจลงทุนโดยไม่ได้ดำเนินการตรวจสอบสถานะอย่างละเอียดถี่ถ้วนด้วยตัวเองหรือปรึกษากับที่ปรึกษาทางการเงินของคุณ เนื้อหาเว็บของเราอาจไม่เหมาะกับคุณเนื่องจากเราไม่ทราบเงื่อนไขทางการเงินและความต้องการในการลงทุนของคุณ ข้อมูลทางการเงินของเราอาจมีความล่าช้าหรือมีความไม่ถูกต้อง ดังนั้นคุณควรรับผิดชอบอย่างเต็มที่ต่อการตัดสินใจซื้อขายและการลงทุนของคุณ บริษัทจะไม่รับผิดชอบต่อการสูญเสียเงินทุนของคุณ
หากไม่ได้รับอนุญาตจากเว็บไซต์ คุณจะไม่สามารถคัดลอกกราฟิก ข้อความ หรือเครื่องหมายการค้าของเว็บไซต์ได้ สิทธิ์ในทรัพย์สินทางปัญญาในเนื้อหาหรือข้อมูลที่รวมอยู่ในเว็บไซต์นี้เป็นของผู้ให้บริการและผู้ค้าแลกเปลี่ยน